Canada
เรียนต่ออเมริกา
ออกเดินทาง เรียนรู้โลกกว้าง ศึกษาต่อในอเมริกากับก้อปันกัน
➤ High School in College
➤ College to University
➤ ภาษาอังกฤษในอเมริกา
➤ ประกาศนียบัตร (Certificate)
Deprecated: preg_match(): Passing null to parameter #2 ($subject) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/presto-player/inc/Support/Utility.php on line 23
Deprecated: preg_replace(): Passing null to parameter #3 ($subject) of type array|string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-includes/kses.php on line 1805
Study in the U.S.A.
ไม่ว่าคุณกำลังอยู่ในขั้นตอนเพิ่งเริ่มต้นหาข้อมูลเพื่อเรียนต่ออเมริกา หรือกำลังอยู่ขั้นเตรียมตัวสำหรับการเรียนต่อแล้ว แต่ยังมีคำถามเกี่ยวกับการเรียนต่อที่อเมริกาอยู่บทความนี้ได้รวมทุกคำตอบจากทุกคำถามที่พบบ่อย หรือถ้าอยากปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศบทความนี้ก็มีพร้อมให้คุณเช่นกัน ตามไปอ่านกันได้เลย!
5 เหตุผลทำไมต้องเรียนต่ออเมริกา ?
สำหรับใครก็ตามที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศในระดับอุดมศึกษาแล้ว ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก ด้วยความน่าเชื่อถือในคุณภาพและมาตรฐานด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษา และแน่นอนว่าเหตุผลในการเลือกเรียนในประเทศอเมริกานั้นอาจจะต่างกันออกไปตามแแต่ละบุคคล ก้อปั้นกันในฐานะผู้ร่วมผลักดันให้คำปรึกษาและบริการด้านการศึกษาต่ออเมริกามาอย่างยาวนานจึงขอยุบรวบทั้งเหตุผลและรวมถึงข้อดีที่นักเรียน/นักศึกษาวางหมุดหมายสู่ประเทศสหรัฐอเมริกามาให้อ่านกัน!
-
ความน่าเชื่อถือและคุณภาพการศึกษา
เมื่อพูดถึงเรื่องคุณภาพการศึกษาแล้วที่สหรัฐฯ สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ล้วนทุ่มสุดตัวเพื่อให้ห้องเรียนกลายเป็นพื้นที่สร้างประสบการณ์ห้องเรียนที่ดีที่สุด มาพร้อมกับการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยตามทันทุกการเปลี่ยนแปลง และสหรัฐอเมริกายังเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและการวิจัยหลายด้านที่น่าเชื่อถืออีกด้วย ระหว่างเรียนที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีและการวิจัยขั้นสูง และยังมีอุปกรณ์พร้อมซัพพอร์ตเตรียมพร้อมเปิดกว้างให้ผู้เรียนใช้ห้องปฏิบัติการและทรัพยากรที่แตกต่างกันตามสาขาที่เรียน เรียกได้ว่าประสบการณ์การเรียนที่จะได้พบนั้นมาในแบบฉบับอัปเดตล่าสุดและทันสมัยที่สุดที่พร้อมให้คุณเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
-
การศึกษาและเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน
แน่นอนว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดนอกจากศึกษาจากในตำราแล้วคือการลงมือปฎิบัติจริง และสถาบันการศึกษาอเมริกาก็ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาและเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างมาก ทำให้ในอเมริกามีโอกาสมากมาย ทั้งให้ผู้เรียนสามารถช่วยเหลือศาสตราจารย์โดยการเป็นผู้ช่วยสอนซึ่งอาจารย์ก็จะช่วยในด้านเงินทุนในการศึกษา และยังช่วยในการขยายความรู้และชุดทักษะ นอกจากนี้นักศึกษาสามารถช่วยเหลืออาจารย์ในการทำวิจัยเกี่ยวกับโครงงานต่าง ๆ และยังเปิดโอกาสให้ได้ทดลองทำงานในสาขาที่เลือกเรียนอีกด้วย
-
ความหลากหลายที่จะได้ค้นพบ
บรรยากาศในสถานศึกษาในสหรัฐอเมริกานั้นเต็มไปด้วยความหลากหลาย ซึ่งจะช่วยทำให้คุณสบายใจได้มากขึ้นเมื่อมีคนที่มาจากวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความคิดและมุมมองใหม่ ๆ ที่จะสามารถแบ่งปันกันได้ ดังนั้น การเรียนต่อต่างประเทศในอเมริกาจะเพิ่มมิติใหม่ ไม่เพียงแต่ทำให้คุณเห็นวัฒนธรรมของสหรัฐฯ แต่ยังรวมถึงภาษาและความเชื่อของผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติทั่วโลก ที่มีความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรม
-
ขยายเส้นทางและโอกาสในการทำงานที่มากขึ้น
ไม่เพียงแต่ให้ใบปริญญาและใบรับรองที่การเรียนต่ออเมริการจะให้คุณได้ แต่ประสบการณ์จากการศึกษาที่อเมริกาจะบ่งบอกว่าคุณเป็นใคร คุณคือผู้ที่ผ่านการใช้ชีวิตและเรียนในประเทศอื่นเรียนรู้วัฒนธรรมภาษาที่สอง สาม หรือสี่ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ท้าทาย ต้องใช้ความกล้าหาญและทัศนคติที่ดี และในบางครั้งคุณลักษณะเหล่านี้มีผลดีมากกว่าปริญญาของคุณ รวมถึงการที่มี Degree นี้ใส่ในเรซูเม่เชื่อว่าจะเป็นแต้มต่อและขยายเส้นทางและโอกาสในการทำงานที่มากขึ้นอย่างแน่นอน
-
ที่นี่มีพื้นที่สำหรับสนับสนุนทุกคน
สำหรับในมุมนักศึกษาต่างชาติสิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าอาจจะหวาดหวั่นอยู่ลึก ๆ คือการเป็นผู้ต่างถิ่นจะได้รับการปฎิบัติดูแลที่แตกต่างกันหรือไม่ แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าในประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายจากการมีผู้คนมากมายเลือกเป็นจุดหมายในการเพิ่มโอกาสให้กับชีวิตแล้ว สถาบันการศึกษาในอเมริกาเองจึงพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมนักเรียนต่างชาติให้พร้อมสำหรับชั้นเรียน ผ่านเวิร์กช็อปต่าง ๆ หลักสูตรฝึกภาษาอังกฤษ ปฐมนิเทศ และการฝึกอบรมต่าง ๆ นักศึกษาต่างชาติจะได้รับความช่วยเหลือมากมายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเรียน
ความเชี่ยวชาญหลักของก้อปันกันในการให้คำปรึกษาด้านการเรียนต่ออเมริกา รวมถึงหลักสูตรระดับปริญญาตรี ในวิทยาลัย (College) เพื่อการโอนเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย (หลักสูตร University Transfer) หรือการสำเร็จหลักสูตรมัธยมปลายจากวิทยาลัย (หลักสูตร High School Completion) การเรียนป.ตรีในอเมริกา
นอกจากนี้แล้ว เราให้บริการเรียนต่อระดับปริญญาโท (Master’s Degree) และการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมตัวศึกษาต่อ และเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง (ESL) สำหรับนักเรียนที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน หรือเพื่อการใช้งานทั่วไป พร้อมกับโอกาสที่จะได้พบเจอกับเพื่อนจากนานาประเทศ ได้อีกด้วย
Programs
แนะนำหลักสูตรการเรียน สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา
สำหรับนักเรียนที่มีอายุ 16 ปี หรือมากกว่า ที่ยังไม่จบมัธยมปลายและต้องการ
- ย่นระยะเวลาเรียน
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อต่างประเทศ
โดย ใช้หน่วยกิตจากการเรียนหลักสูตรอนุปริญญา (Associate’s Degree) เพื่อออกใบประกาศษณียบัตรจบการศึกษามัธยมปลายได้ (High School Diploma)
หลังสำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญา (Associate’s Degree) สามารถโอนศึกษาต่ออีก 2 ปีเพื่อจบปริญญาตรีได้ (Bachelor’s Degree)
อ่านเพิ่มเติมสำหรับการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีในอเมริกา คุณเรียน 2 ปีในวิทยาลัย (college) และโอนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย (university) 2 ปี เพื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับนักศึกษานานาชาติในการศึกษาต่ออเมริกา
Community College มีจำนวนนักเรียนต่อห้องเฉลี่ย 20-25 คน มีค่าใช้จ่ายที่ประหยัด (ประมาณ 330,000 บาท/ปี) และมีแผนกบริการดูแลนักเรียนนานาชาติโดยเฉพาะ เรารับรองโอกาสในการเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยต่อ 100%
อ่านเพิ่มเติมหลักสูตรประกาศนียบัตรเฉพาะทาง เพื่อพัฒนาทักษะ ความรู้สำหรับการประกอบวิชาชีพ เน้นเตรียมตัวเพื่อการทำงานหลังเรียบจบ พร้อมโอกาสรับประกาศนียบัตรหรือวุฒิการศึกษาจากอเมริกา และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถทำงานในอเมริกา (OPT) ในอเมริกาได้อย่างถูกกฎหมาย 1-3 ปี
สำหรับท่านที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ใช้ชีวิตนักศึกษาในอเมริกา ใช้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกของมหาวิทยาลัยได้ หรือเรียนภาษาอังกฤษในสถาบันเอกชนในเมืองต่างๆ อาทิ Seattle, Portland, Los Angeles, Boston, New York, Chicago, San Diego และอื่นๆ
อ่านเพิ่มเติมU.S.A. Partners
สถาบันการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ก้อปันกันเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการ
กรุณาเลือก tab เพื่อการแสดงผล
ตัวเลือกตามหมวดหมู่ที่สนใจด้านล่าง
สำหรับคำถามที่คุณอาจมีว่า
เรียนต่ออเมริกาจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ในบทความพาส่องค่าใช้จ่ายเรียนต่ออเมริกานี้
เราได้สรุปไว้ให้แล้วครับ
Why Us?
ทำไมนักเรียน นักศึกษาถึงเลือกใช้บริการของก้อปันกันในการศึกษาต่ออเมริกา?
3 สิ่งที่ก้อปันกันรับรอง
- ข้อมูลที่ครบถ้วน: ให้ท่านได้ศึกษา ค้นหาตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้เป็นอย่างดี เพื่อการเลือกสถาบันและหลักสูตรที่เหมาะสม
- คำปรึกษาที่จริงใจ: คำนึงถึงเงื่อนไข และความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นหลัก เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำเป็นรายบุคคล
- บริการที่วางใจได้: ชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายอย่างตรงไปตรงมา มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ใช้บริการตั้งแต่ต้น รวมถึงช่วงเวลาที่เดินทางไปแล้ว
Deprecated: preg_match(): Passing null to parameter #2 ($subject) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/presto-player/inc/Support/Utility.php on line 23
Deprecated: preg_replace(): Passing null to parameter #3 ($subject) of type array|string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-includes/kses.php on line 1805
สำหรับอีกหนึ่งคำถามที่คุณอาจมีว่า
สมัครเรียนต่ออเมริกาด้วยตนเอง หรือใช้บริการของ KPG?
หากยังไม่แน่ใจว่าจะสมัตรเอง หรือให้เอเจนซี่บริการ
สามารถอ่านสรุปเปรียบเทียบระหว่างการดำเนินการเองและการใช้บริการของ KPG ได้เลยครับ
Contact Us
ติดต่อขอรับข้อมูลและคำปรึกษาเกี่ยวกับการศึกษาต่ออเมริกา
3 เรื่องสำคัญก่อนตัดสินใจไปเรียนต่ออเมริกา
ทำความเข้าใจสิ่งที่ต้องพิจารณา
อย่าเพิ่งตัดสินใจเรียนต่อที่อเมริกาหากคุณยังไม่ได้พิจารณาสิ่งเหล่านี้
- Location : สถาบันที่เรียน เพราะการไปเรียนอยู่ที่พื้นที่นั้น ๆ เป็นเวลาหนึ่งปี หรือมากกว่านั้นการเลือกสถานที่ที่เหมาะและตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์นั้นจึงถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการค้นหาและเลือกสถาบัน ก่อนเลือกสถาบันใดก็ตามควรจะตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า เราต้องการใช้ชีวิตในเมืองขนาดใหญ่ มีชีวิตที่รวดเร็ว ผู้คนมากมาย หรือชานเมืองที่เป็นย่านพักอาศัยของผู้คน สามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ ไม่วุ่นวาย หรือเมืองขนาดเล็กที่มีความเป็นชุมชน มีกิจกรรมร่วมกัน ก็อาจช่วยในการพิจารณาเลือกสถาบันการศึกษา ที่เหมาะกับเราความเป็นอยู่ของเราได้
- Area of study : สาขาการเรียนที่สนใจ เพราะไม่ใช่ทุกสถาบันที่จะเปิดสอนในสาขาที่คุณสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการศึกษาต่อในช่วงชั้นปีที่ 3-4 ของหลักสูตรปริญญาตรี เพื่อจะได้ศึกษาในเชิงลึกของสาขาการเรียน (major) ที่เราสนใจ หรือที่เราเรียกว่า Concentration ซึ่งในส่วนนี้จะมีความแตกต่างกันตามแต่ละสถาบัน
- Ranking : การจัดลำดับมหาวิทยาลัย เพราะการจัดลำดับมหาวิทยาลัยนั้นก็ผ่านกระบวนการตัดสินใจมาในระดับที่ดีระดับหนึ่ง จึงสามารถนำมาใช้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยช่วยให้เราพิจารณาเลือกสถาบัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรพิจารณาจากด้านอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยการเลือกแหล่งข้อมูลแนะนำนั้นก็สำคัญ สำหรับการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ranking แนะนำ ดังนี้ U.S. News Ranking, Best Graduate School Ranking และสำหรับผู้ติดตามก้อปันกันและสนใจการเรียนต่อสามารถเข้าไปพิจารณาสถาบันได้ที่ Community college อเมริกา แต่ก้อปันกันไม่มีการจัด ranking เหมือนมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัย 4 ปี โดยจะเลือกสถาบันจากที่ตั้ง บริการและสาขาการเรียนที่สนใจเป็นหลัก
ทำความเข้าใจ College V.S. University
หลายคนคงเคยได้ยินสองคำนี้มาพอ ๆ กัน แต่อาจจะยังสับสนว่าจะแยกความแตกต่างอย่างไร ทั้งนี้จะบอกว่าความแตกต่างจะขึ้นอยู่ประเทศนั้น ๆ ด้วยนะ แต่สำหรับวัฒนธรรมอเมริกาที่หลังจบจาการะดับมัธยมปลายแล้วมักจะใช้วลีว่า “Going to college” มากกว่า “Going to university” เราจะพามาทำความเข้าใจว่า College และ University ต่างกันที่ตรงไหนกัน!
สำหรับความแตกต่างระหว่าง College และ University ในอเมริกาที่สำคัญและชัดเจนที่สุด คือ ขนาดของสถานศึกษา กล่าวคือ มหาวิทยาลัยมักจะเปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี (undergraduate) ปริญญาโท (graduate) และปริญญาเอก (doctorate) มหาวิทยาลัยจึงหมายถึงสถาบันที่มีหลายระดับการศึกษาตั้งอยู่ภายใน เช่น a School of Business, College of Liberal Arts and Sciences, a School of Engineering และอื่น ๆ ทำให้มหาวิทยาลัยส่วนมาก (โดยเฉพาะ public university) มักจะมีจำนวนนักศึกษามากกว่าวิทยาลัย
ในขณะที่วิทยาลัย หรือ College โดยทั่วไปจะเปิดสอนถึงแค่หลักสูตรปริญญาตรี วิทยาลัยบางส่วนได้เปิดสอนหลักสูตรการศึกษาระดับปริญญาโทในสาขาต่าง ๆ อาทิ Dartmouth College และ Boston College ซึ่งเลือกที่จะไม่ใช้คำว่า university เพียงเพราะต้องการที่จะรักษาความเป็นแบบฉบับที่ดั้งเดิมเอาไว้
ส่วนวิทยาลัยอีกส่วนหนึ่ง อาทิ Community college อาจเปิดสอนและออกวุฒิการศึกษา 2 ปี ที่เรียกว่า associate degree เท่านั้น และยังมีวิทยาลัยอีกกลุ่มหนึ่งเป็น Liberal arts college จัดหลักสูตรการศึกษาที่เปิดกว้างแบบสหวิทยาการ รวบรวมการศึกษาในภาคแขนงต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน นั่นหมายถึงว่าไม่ได้เน้นจัดการศึกษาเฉพาะทางในด้านใดด้านหนึ่งแต่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้และความสามารถแบบองค์รวมหรือรู้รอบครอบคลุมนั่นเอง
รู้จักระบบการทำงานและการจ้างงาน
เรียนอยู่สามารถทำงานได้ไหม ? คำถามนี้ได้ยินบ่อย ๆ คำตอบ คือ หากจะเรียนและทำงานไปด้วยควรจะต้องรู้จักระบบการทำงานและการจ้างงานของอเมริกา
เพราะในส่วนของการทำงานและจ้างงานสำหรับผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน (F-1) ตามระเบียบและกฎหมายแล้ว นักเรียนไม่สามารถที่จะทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนได้ นอกเสียจาก 2 กรณี ได้แก่
- การทำงานในสถานศึกษา โดยมีสถานศึกษาเป็นผู้ว่าจ้างให้ทำงานได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมง/ สัปดาห์ *อิงจาก U.S. Immigration and Custom Enforcement
- การทำงานนอกสถานศึกษา โดยต้องสมัครเข้าร่วมโครงการ Curricular Practical Training (CPT) ในช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ หรือ ทำงานหลังจากที่จบการศึกษาในโครงการ Optional Practical Training (OPT) ระยะเวลา 1-2 ปี (2 ปีสำหรับหลักสูตร STEM) ทั้งนี้จะสามารถทำได้สำหรับผู้เรียนที่ศึกษาในหลักสูตรเพื่อวุฒิการศึกษา (degree seeking students) กล่าวคือ ไม่รวมการเรียนภาษา *รายละเอียดเพิ่มเติมที่ U.S. Immigration and Custom Enforcement
และกำลังมีคำถามเหล่านี้อยู่หรือเปล่า? …
– เรียนต่ออเมริกาต้องใช้อะไรบ้าง?
– ขั้นตอนการเรียนต่ออเมริกาเป็นอย่างไร
สามารถอ่านบทความ เรียนต่ออเมริกาใช้อะไรบ้าง? ได้เลยครับ
เรียนต่ออเมริกา
คำถามที่พบบ่อย
Consultation
สำหรับการศึกษาต่อในประเทศอเมริกากับก้อปันกัน ทีมงานของเราจะช่วยดูแล แนะนำและดำเนินการสมัครขอรับทุนให้ได้ หากสถาบันที่สมัครเข้าเรียนนั้นมีทุนให้กับนักศึกษาต่างชาติ ทั้งนี้ทุนการศึกษาโดยทั่วไปอาจจะช่วยลดหย่อนค่าใช้จ่ายได้เพียงบางส่วนเท่านั้น (ประมาณ 5-15% ของค่าเล่าเรียน *ขึ้นอยู่กับสถาบัน)
ดังนั้นผู้สมัครจำเป็นที่จะต้องมี sponsor หรือบุคคล/องค์กร/หน่วยงาน ที่เป็นผู้ดูแลและสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตและการศึกษาต่อ
อย่างไรก็ตามหากสนใจอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุนการศึกษาของหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ สามาารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ทุนการศึกษา - เรียนต่ออเมริกา
ไม่ว่าคุณเพิ่งเริ่มจะมีความสนใจ หรือกำลังวางแผนที่จะเรียนต่อต่างประเทศ และอาจจะไม่แน่ใจว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร? จะเลือกสถาบันอย่างไรดี? โดยเฉพาะอย่างในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยรวมกันมากกว่า 4,000 สถาบัน … เราแนะนำ 4 ปัจจัยพื้นฐานที่ควรคำนึงถึง ได้แก่ ที่ตั้ง สาขาการเรียน ranking และค่าใช้จ่ายในการค้นหาข้อมูลและวางแผนสำหรับการเรียนต่ออเมริกา คุณสามารถอ่านคำแนะนำเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
หากคุณมีแพลนที่จะศึกษาต่ออเมริกา และมีคำถามว่าจะต้องสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (IELTS หรือ TOEFL) ไหม? คำตอบของเราอาจจะยาว แต่รับรองความถูกต้อง !
คำตอบ คือ ขึ้นอยู่กับหลักสูตร (program) ที่สมัครเข้าเรียน
หากคุณสมัครไปเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ โดยปกติแล้วสถาบันจะไม่บังคับให้คุณยื่นผลคะแนนสอบ TOEFL หรือ IELTS ดังนั้นหากไม่มีผลสอบวัดระดับภาษา ก็สามารถสมัครเข้าเรียนได้ ทั้งนี้ผู้สมัครจะต้องทำการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษก่อนที่จะลงทะเบียนเรียน และผลสอบจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า ผู้สมัตรจะต้องเรียนภาษาอังกฤษเป็นระยะเวลากี่เทอมหรือกี่เดือน
หากคุณสมัครไปเรียนหลักสูตรเพื่อวุฒิการศึกษา เช่น หลักสูตรใน high school, college หรือ university จะมีความเป็นไปได้ 2 อย่าง คือ
1) สถาบันบังคับให้คุณมีผลสอบวัดระดับภาษา TOEFL หรือ IELTS ที่ถึงเกณฑ์ เพื่อใช้ประกอบในการยื่นสมัครเข้าเรียน
2) สถาบันไม่บังคับให้คุณใช้ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษประกอบการสมัครเข้าเรียน ในกรณีนี้ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นไปได้กับสถานศึกษาที่มีหลักสูตรการเรียนปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษของสถาบัน ดังนั้น ผู้สมัครสามารถเลือกที่จะยื่นผลสอบวัดระดับภาษาในการสมัครหรือไม่ก็ได้
ทั้งนี้ทีมงานของก้อปันกันขอแนะนำให้บุคคลที่มีแผนการจะสมัครเรียนเพื่อวุฒิการศึกษาในอเมริกาเตรียมตัวพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และทำการสอบวัดระดับภาษา เพื่อใช้ประกอบในการสมัครเข้าเรียน (โดยอาจจะยื่นผลสอบพร้อมการสมัคร หรือยื่นตามในภายหลังของการสมัครก็ได้ *ขึ้นอยู่กับสถาบันที่จะสมัครเข้าเรียน) เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธคำร้องขอวีซ่า และความสะดวกและชัดเจนในการวางแผนการศึกษา (ให้ไม่ต้องใช้เวลาเรียนปรับภาษาในขณะที่อยู่ในอเมริกานานจนเกินไป)
โอกาสที่จะผ่านวีซ่าเป็นหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยจากผู้ที่สนใจศึกษาต่ออเมริกา ซึ่งเราขอชี้แจงว่า เราไม่มีนโยบายที่จะรับรองผลการสัมภาษณ์วีซ่าได้ (ไม่มีบุคคลหรือองค์กรใดที่สามารถทำได้) เนื่องจากการพิจารณาอนุมัติผลการสมัครขอวีซ่าขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ผู้สมัคร
ทั้งนี้ทีมงานของก้อปันกันสามารถที่จะให้คำปรึกษา เพื่อช่วยประเมินความเป็นไปได้ การเตรียมเอกสารและการเตรียมตัวสัมภาษณ์ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
Admission
สำหรับการเตรียมตัวสมัครเข้าเรียนต่ออเมริกา ทีมงานของก้อปันกันขอแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่
1) การเตรียมเอกสารสำหรับการสมัคร
โดยทั่วไปแล้วผู้สมัครควรจะต้องเตรียม a) passport ที่มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน, b) ใบแสดงผลการเรียนชั้นการศึกษาสูงสุดที่จบ (transcript), c) เอกสารรับรองการจบการศึกษา หรือการเป็นนักเรียน/นักศึกษา *กรณีที่ยังคงศึกษาอยู่, d) เอกสารรับรองสถานะทางการเงินของผู้สนับสนุนทางการเงิน (Bank Guarantee Letter) ที่มียอดเงินคงเหลือมากกว่ายอดค่าใช้จ่ายที่กำหนดโดยสถาบัน ซึ่งควรจะออกมาไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันที่ดำเนินการสมัคร
*ทั้งนี้สำหรับการสมัครเข้ารับการศึกษาในบางสถาบันและบางหลักสูตร จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน และอาจมีเอกสารอื่นที่ต้องใช้เพิ่มเติม ขอให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ของเรา และเอกสารทั้งหมดควรจะเป็นภาษาอังกฤษ
2) การเตรียมตัวด้านภาษาอังกฤษ
ผู้สมัครที่สมัครเพื่อศึกษาในหลักสูตรเพื่อวุฒิการศึกษาจะต้องสอบวัดระดับภาษา และจะต้องสัมภาษณ์ขอวีซ่ากับเจ้าหน้าที่กงสุลที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร ดังนั้นการเตรียมตัวด้านภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสัมภาษณ์ การสอบวัดระดับภาษา รวมถึงการใช้งานเชิงวิชาการ (Academic English) เป็นสิ่งที่ควรเตรียมตัวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากยิ่งเตรียมตัวได้มากเท่าไหร่ ก็จะเป็นผลดีต่อทุกๆก้าวของผู้สมัครเองทั้งในส่วนของการดำเนินการก่อนเดินทาง และประสบการณ์การศึกษาในต่างประเทศ
3) การเตรียมตัวด้านระยะเวลา
โดยทั่วไปแล้ว สถาบันการศึกษาเปิดให้สมัครเข้าเรียนล่วงหน้าได้ 1 ปี ก่อนวันที่จะเริ่มเรียน และแต่ละสถาบันและหลักสูตรจะมี deadline คือวันที่กำหนดให้ดำเนินการสมัคร หรือส่งเอกสารต่างๆที่แตกต่างกันออกไป ขอให้ตรวจสอบและเช็คกับเจ้าหน้าที่ของก้อปันกัน ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้ว เราแนะนำให้ดำเนินเรื่องสมัครเข้าเรียนล่วงหน้า 4-8 เดือนก่อนวันเริ่มเรียนของเทอมที่จะสมัครเข้าเรียน (ในบางกรณี เราอาจจะช่วยดำเนินการสำหรับเคสที่สมัคร 1-2 เดือนก่อนวันเริ่มเรียนได้)
สำหรับการศึกษาต่ออเมริกา ก้อปันกันมีบริการครบวงจร โดยไม่คิดค่าบริการ รวมถึง
- การให้คำปรึกษาในการเลือกหลักสูตรและสถานศึกษาที่เหมาะสมกับผู้สมัคร
- การดำเนินการสมัครเข้าเรียน และสมัครขอทุน (หากมี) พร้อมติดตามผล
- การดำเนินการสมัครขอวีซ่า พร้อมแนะนำในการเตรียมเอกสาร และการเตรียมตัวสัมภาษณ์
- การดำเนินการจัดหาที่พัก สำหรับที่พักที่เป็นตัวเลือกของสถานศึกษาที่สมัครเข้าเรียน อาทิ หอพัก หรือที่พักกับ host family
- การให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อการเตรียมตัวก่อนเดินทาง
- การติดตาม ดูแล ให้คำปรึกษาในขณะที่กำลังศึกษา
สามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการบริการศึกษาต่ออเมริกาได้ที่นี่
สำหรับผู้สมัครที่สมัครเข้าศึกษาต่อในสถาบันก้อปันกันเป็นตัวแทนในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้บริการของก้อปันกัน หากผู้สมัครเตรียมเอกสารและมีเงื่อนไขตรงตามที่สถาบันกำหนดไว้ โดยทั่วไปแล้วผู้สมัครจะไม่ได้รับการปฏิเสธโดยสถาบัน แต่ถ้าหากการสมัครเข้าศึกษาในสถาบันใดที่มีโอกาสจะถูกปฏิเสธ ทีมงานของเราจะแจ้งให้ผู้สมัครทราบล่วงหน้า
สำหรับการใช้บริการศึกษาต่อเมริกากับก้อปันกัน ผู้สมัครจะไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆ และค่าใช้จ่ายจะเป็นไปตามอัตราที่ผู้สมัครต้องชำระตามจริง โดยการชำระค่าใช้จ่ายจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1) การสมัครเข้าเรียนและสมัครขอวีซ่า: สำหรับค่าสมัครจะคำนวณตามที่สถานศึกษากำหนด และสำหรับค่าวีซ่าจะคำนวณตามที่สถานฑูตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด ผู้สมัครชำระตามใบแจ้งหนี้ (invoice) ที่เราออกให้ถึงบจก.ก้อปันกัน โดยทีมงานของเราจะออกหลักฐานการรับเงินให้ ซึ่งเราจะรับมาเพื่อทำการชำระต่อให้กับผู้สมัคร
*ทั้งนี้ก้อปันกันจะจัดเก็บค่ามัดจำในการดำเนินการ 5,000 บาท ซึ่งจะคืนให้เต็มจำนวน สำหรับผู้สมัครที่ผ่านการสัมภาษณ์ขอวีซ่า และเดินทางไปเรียนในสถาบันและหลักสูตรที่ามัครเรียนไว้แล้ว
2) การสมัครในการจัดหาที่พัก: สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อาจรวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดหาที่พัก ค่ามัดจำหอพัก ค่าบริการรับ-ส่งจากสนามบิน โดยจะคำนวณตามที่สถานศึกษานั้นๆกำหนด แต่ละสถานจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ผู้สมัครชำระตามใบแจ้งหนี้ (invoice) ที่เราออกให้ถึงบจก.ก้อปันกัน โดยทีมงานของเราจะออกหลักฐานการรับเงินให้ ซึ่งเราจะรับมาเพื่อทำการชำระต่อให้กับผู้สมัคร
*ทั้งนี้ก้อปันกันไม่บังคับให้ผู้สมัครใช้บริการจัดหาที่พักของสถาบัน
3) ค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและค่าธรรมเนียมอื่นๆ: ผู้สมัครสามารถชำระค่าเล่าเรียน ค่าที่พักและค่าธรรมเนียมอื่นๆที่เกิดขึ้นกับสถานศึกษาที่เข้ารับการศึกษาได้โดยตรง โดยไม่ต้องชำระผ่านบริษัทของเรา และจะชำระเป็นอัตราเดียวกับการสมัครเข้าศึกษาด้วยตนเอง (ไม่ได้ผ่านบริษัท)
Student Life
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat.
สำหรับผู้ที่ถือวีซ่านักเรียน (F-1) ตามระเบียบและกฎหมายแล้ว นักเรียนไม่สามารถที่จะทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนได้ นอกเสียจาก 2 กรณี ได้แก่
1) การทำงานในสถานศึกษา โดยมีสถานศึกษาเป็นผู้ว่าจ้างให้ทำงานได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมง/ สัปดาห์ *อิงจาก U.S. Immigration and Custom Enforcement
2) การทำงานนอกสถานศึกษา โดยต้องสมัครเข้าร่วมโครงการ Curricular Practical Training (CPT) ในช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ หรือ ทำงานหลังจากที่จบการศึกษาในโครงการ Optional Practical Training (OPT) ระยะเวลา 1-2 ปี (2 ปีสำหรับหลักสูตร STEM) ทั้งนี้จะสามารถทำได้สำหรับผู้เรียนที่ศึกษาในหลักสูตรเพื่อวุฒิการศึกษา (degree seeking students) กล่าวคือ ไม่รวมการเรียนภาษา *รายละเอียดเพิ่มเติมที่ U.S. Immigration and Custom Enforcement
Blog & News
บทความและอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับการเรียนต่ออเมริกา
รีวิวเรียนต่ออเมริกา โดยซิดนีย์ เริ่มต้นชีวิตใน college อายุ 16 ปี โอนศึกษาต่อป.ตรีที่ UC Berkeley
รีวิวเรียนต่อป.ตรีอเมริกา กับ S
อ่านต่อประสบการณ์เรียนต่อวิทยาลัย Shoreline โอนศึกษาต่อ University of Washington โดย ทิศา
ประสบการณ์เรียนต่อ Shoreline Co
อ่านต่อ[รีวิว] ประสบการณ์ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ Lewis-Clark State College โดย เป้ง
"เป้ง" ตัวแทนประเทศไทย โครงการ
อ่านต่อ[รีวิว] จากนักเรียนไฮสคูลอินเดียสู่การเรียนที่ Santa Monica College ในอเมริกา โดย เออ
ประสบการณ์เรียนต่อสถาบัน Santa
อ่านต่อ[รีวิว] ประสบการณ์การเรียนใน Green River College เพื่อเตรียมเรียนต่อการบิน โดย เจมส์
ประสบการณ์เรียนสาขาการบิน Green
อ่านต่อ[รีวิว] ประสบการณ์เด็กไทยไปเรียนภาษาอังกฤษที่ PELA : Portland เมืองฮิปสเตอร์ โดย เบล
ประสบการณ์เด็กไทยเรียนภาษาอังกฤ
อ่านต่อ