Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wp-table-builder domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-includes/functions.php on line 6114

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wp-table-builder domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-includes/functions.php on line 6114

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192
รีวิว เรียนหลักสูตร ESL Classic และ IELTS ที่ EV Academy

[รีวิว] เรียนภาษา และใช้ชีวิตที่เซบู ฟิลิปปินส์ 8 สัปดาห์! โดย มิว

รีวิว เรียนหลักสูตร ESL Classic และ IELTS ที่ EV Academy
ระยะเวลา 8 สัปดาห์ (1 เมษายน – 27 พฤษภาคม 2023)

โดย ‘มิว’ นักศึกษาปีที่ 1 ภาคอินเตอร์
ที่อยากแบ่งปันเรื่องราวการใช้ชีวิต และเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

แนะนำตัวให้เพื่อน ๆ รู้จักหน่อย

มิวค่ะ อายุ 18 ปี กำลังเตรียมตัวจะเข้ามหาวิทยาลัย มิวเรียนภาคอินเตอร์เลยอยากอัปสกิลเพื่อ​เอามาพัฒนาในการเรียนและสอบ IELTS ก่อนไปเรียกว่าพอมีพื้นฐานในระดับหนึ่ง คือ เราสามารถฟังได้นะคะ แต่เรายังคิดคำตอบเป็นภาษาไทย ทำให้ตอบออกไปไม่ได้ ณ ขณะนั้นเลย และอยู่ไทยเองก็ไม่ค่อยมีความมั่นใจที่จะใช้ภาษาเท่าไหร่ค่ะ

เคยเรียนภาษาที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า ?

เคยเรียนที่สถาบันในไทยก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงและได้เรียนกับ Native ด้วย แต่ว่าทักษะที่เราได้คือสามารถพูดแค่ในคลาสซึ่งมิวรู้สึกว่ามันไม่ได้ผลมากขนาดนั้น เลยมองหาทางอื่นที่จะสามารถพัฒนาภาษาเราได้แบบที่ใช้สื่อสารได้จริงในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ

ทำไมตัดสินใจไปเรียนที่ประเทศฟิลิปปินส์ ?

พี่ของมิวเคยไป เรียนต่อแคนาดา กับทาง Korpungun มาก่อน มิวเลยเข้ามาดูเว็บไซต์แล้วเห็นมีประเทศฟิลิปปินส์ด้วย ซึ่งพอลองเข้ามาอ่านข้อมูลดูแล้วสนใจค่ะ ด้วยความที่ประเทศเขาใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แล้วก็ไม่ไกลจากไทยมากแถมราคาน่ารักด้วย มิวเลยตัดสินใจเลือกเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์ค่ะ

การเดินทาง ‘ต่อเครื่อง’ มะนิลา เซบูเป็นอย่างไรบ้าง ?

ตอนแรกเลยทางก้อปันกันแนะนำว่าให้บินตรงด้วยความที่มิวต้องออกค่าใช้จ่ายเองแล้วอยากประหยัดงบก็เลยเลือกต่อเครื่องบินไปลงที่มะนิลา แต่ถ้าพูดถึงเรื่องราคาค่าเครื่อง Direct and Transfer ไม่ต่างกันมากค่ะ 2,000 – 3,000 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงที่เราจองแล้วเจอราคาไหนด้วย พอไปถึงแล้วมิวก็เช็กรายละเอียดต่าง ๆ ตามไกด์บุ๊คที่ทางก้อปันกันให้มาเลยค่ะ แต่แอบมีงง ๆ นิดนึงเพราะช่วงนั้นที่สนามบินมะนิลาอยู่ในช่วงกำลังปรับปรุงลิฟต์บางจุด ทำให้พิกัดที่อยู่ในไกด์บุ๊คเราเคลื่อนไปนิด พอไปจุดนึงเขาก็บอกให้ไปอีกจุดนึง ก็คือเดินวนอยู่ข้างในนั้นแหละค่ะ แต่ก็เจอ Terminal ที่ถูกจนได้ (5555555)

ตอนนั้นที่มิวไปประมาณ 4-5 ทุ่ม คนก็ไม่ได้เยอะมากประปราย ก็รอไปเลยค่ะประมาณ 6 ชั่วโมง แล้วก็ถึงที่เซบูประมาณ 7 โมงเช้า ตอนบินเราบินเครื่องบินลำเล็กด้วยค่ะ ตอนอยู่บนเครื่องมองลงมาเห็นมองมุมสูงแล้วเห็นเลยว่าธรรมชาติดีงามมาก ภูเขา ทะเล สวยมากเลยค่ะ

แต่การต่อเครื่องก็ทำให้รู้สึกเพลียพอสมควรเหมือนไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่นะคะ พอเดินทางถึงสถาบันปุ๊ปก็คือพุ่งตัวไปนอนก่อนเลย

ถึงเซบูแล้วเดินทางไป EV Academy ยากไหม ?

ไม่ยากเลยค่ะ เดินออกมาจากสนามบินก็จะเจอป้าย EV Academy มีรถตู้มารอเพื่อไปสถาบัน แล้วช่วงที่มิวไปคือเป็นช่วงที่คนเยอะหน่อยก็นั่งรถเข้าสถาบันด้วยกันนี่แหละ เจอคนไทยที่มาก็เยอะมากช่วงนี้ราว 15 – 20 คนเลย และพอเดินทางไปถึง EV ก็เจอพี่ส้มที่คอยชี้แจงเรื่องต่าง ๆ แล้วก็มี Welcome Bag ให้ด้วยก็รู้สึกสบายใจไม่ได้กังวลเรื่องการเดินทางมาสถาบันเลยค่ะ

ถึงสถาบันแล้วรีวิว EV Academy หน่อย

ก่อนมามิวค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ก้อปันกันเกี่ยวกับการเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์แล้วเจอว่าที่ EV Academy ขึ้นว่าเป็น School & Resort ด้วยความที่เราไปต่างบ้านต่างเมืองเราอยากอยู่ในที่ที่สบายหน่อย แล้วพอดูจากข้อมูลก็คือประเทศนี้สภาพแวดล้อมค่อนข้างใกล้เคียงกับประเทศไทย แล้วพอมาแล้วสถาบันคือเหมือนรีสอร์ทจริง ๆ เพราะครั้งแรกที่เราเข้าไปในสถาบันกับข้างนอกชุมชนคือหน้ามือกับหลังมือเลยค่ะ มันแตกต่างกันม๊ากก (เสียงสูงสุด ๆ ) คือด้านในบรรยากาศร่มรื่นมีสระว่ายน้ำ มีสวน เมื่อเทียบกับด้านนอกสำหรับมิวในสถาบันคือดีมาก ๆ เลย ตรงสเป็กเลยค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกใน EV Academy ?

ที่นี่ก็ถือว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบในสถาบันนะคะ มีคาเฟ่ ห้องออกกำลังกาย แต่อินเตอร์เน็ตก็จะมีโซนที่จัดไว้ให้ แล้วก็บริการซักผ้าของที่นี่เราส่งซักได้แต่ว่าจะใช้เวลา 3-4 วันส่งถึงหน้าห้องเลย แล้วก็ต้องแชร์ถุงกับรูมเมท มิวไม่อยากรอเลยจะออกมาหยอดเหรียญซักข้างนอกข้าง ๆ สถาบันเดินออกไปไม่ไกลก็ถึงซะส่วนใหญ่ค่ะ ราคาก็ก็ประมาณ 190 เปโซรวมน้ำยาซักแล้ว

แล้วก็ที่นี่จะมีระบบรักษาความปลอดภัยและกฏระเบียบที่ค่อนข้างเคร่งอยู่ เรื่องการเข้า-ออก สถาบันจะต้องแลกบัตรก่อน และมีการกำหนดวันเวลาในการเข้าออกสถาบันอย่างมิวมีเพื่อนอายุ 17 ปี ยังจูเนียร์อยู่ก็จะออกได้ แค่ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เคอร์ฟิวของสถาบันเราก็คือ 3 ทุ่ม ถ้าเราเลทภายใน 30 นาที 2 พอยท์ ถ้าเกินนั้นตัด 5 พอยท์ ซึ่ง ทำผิดกฏบ่อยเข้าตัดคะแนนจนถึงเกณฑ์ก็โดนไล่ออกทันทีค่ะ

เล่าบรรยากาศห้องพักให้ฟังหน่อย ?

ตอนช่วงที่จองไปเป็น ห้องพัก 3 เตียง 1 สัปดาห์ 4 เตียง 7 สัปดาห์ แต่ตอนไปอยู่คือ ห้อง 3 คนเนี่ย อีก 1 คนเป็นสายเที่ยวไม่ค่อยอยู่ค่ะ ขนาดห้องก็กำลังพอดีไม่ใหญ่และไม่เล็กไป อยู่ได้สะดวกแล้วก็มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำก็ค่อนข้างใหญ่ตามจำนวนคนในห้องค่ะ แล้วก็มีในห้องน้ำที่นี่มีไดร์เป่าผมไว้ให้ด้วย

ส่วนเตียงนอนห้อง 3 คนจะเป็นเตียงเดี่ยววางเรียงกัน 3 เตียงเลย แล้วในห้องก็มีโต๊ะยาวที่แบ่งล็อกไว้ให้มาพร้อมปลั๊กของแต่ละคนไว้ให้เรียบร้อยเลย

ควรเตรียมอะไรเป็นพิเศษไหมสำหรับห้องพักที่นี่ ?

ผ้าห่มค่ะ 55555 ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่มีให้นะคะแต่น้องผ้าห่มบางมาก เหมือนเป็นผ้าปูเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่รูมเมทด้วยนะ เพราะถ้าเจอเพื่อนญี่ปุ่นจะชอบแอร์อุณหภูมิสูงหน่อย ไม่หนาว แอบถามเพื่อนคนไทยคนอื่นก็เจอเหมือนกัน แต่ก็จะมีบางทีที่เปิดแอร์หนาวผ้าห่มบาง ๆ ก็เลยเอาไม่อยู่ค่ะ ^^

รีวิวอาหารใน EV Academy หน่อย

อาหารที่นี่มีให้ทานครบ 3 มื้อเลย ถ้าว่าด้วยเรื่องรสชาติจะออกไปทางติดหวาน มัน เลี่ยนค่ะ ถ้าเป็นอาหารเกาหลีก็จะแอบ Fake Korean Food นิดนึง ไม่ค่อยเหมือนออริจินัลเท่าไหร่ แต่ก็ทานได้นะคะแค่เป็นรสชาติที่เราไม่คุ้นเพราะคนที่นี่เขาจะอินเลิฟกับอาหารหวาน มันอยู่แล้วค่ะ แต่มิวชอบมื้อเช้านะคะเมนูจะเป็นแนวโรงแรมเลย ขนมปัง ซีเรียล สลัด ข้าวต้มให้ซดร้อน ๆ มื้อเที่ยงก็จะเป็นมื้อใหญ่ขึ้นมาหน่อยแล้วก็ใครไม่อิ่มคือเติมได้ตลอดเวลาเลยค่ะ แล้วยังมีพวกขนมปัง ผลไม้ น้ำหวานครบเลย แล้วก็จะมีหนึ่งวันต่อสัปดาห์ที่จะมีอาหารประจำชาติต่าง ๆ มีเบอร์เกอร์ บิบิมบับ อาหารที่นี่คือจัดเต็มมาก ส่วนมื้อเย็นก็เยอะจัดเต็มเหมือนมื้อเที่ยงจะต่างตรงเมนูค่ะที่จะไม่ซ้ำกันเลย

รีวิวเพื่อน ๆ ให้ฟังหน่อย โอเคไหม ?

ช่วงที่มิวไปอย่างที่บอกว่าคนไทยเยอะมากก เพราะเป็นช่วงปิดเทอมด้วย จะมีตั้งแต่ 17 18 แบบนี้ค่ะ คนไทยเยอะแต่มิวก็มีเพื่อนต่างชาตินะคะ อย่างเกาหลี เวียดนาม ญี่ปุ่น มองโกเลีย รัสเซีย ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ส่วนชาวต่างชาติส่วนมากจะเป็นคนวัยทำงาน แล้วจากที่ถามคืออยากได้ภาษาเพื่อไปอัปเกรดเงินเดือนให้ตัวเอง หรือไปต่างประเทศต่อ ส่วนมากก็มาด้วยทุนตัวเอง เพื่อน ๆ เลยจะแบบขยันและมุ่งมั่นกันมากค่ะ

รีวิวหลักสูตรที่เรียน ESL Classic + IELTS

การเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์ ตอนแรกมิวตัดสินใจเลือกเป็น ESL Classic ไปก่อนค่ะ แต่ไปเปลี่ยนเป็น IELTS ทีหลังสรุปเลยก็จะเป็นเรียน ESL Classic 4 สัปดาห์ ปูพื้นฐานได้ดีก่อน + IELTS 4 สัปดาห์ รวมเป็น 8 สัปดาห์ ที่ตัดสินใจเปลี่ยนเพราะที่มหาวิทยาลัยของมิวจะมีทางเลือกว่าหากสอบ IELTS ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไม่ต้องเข้าเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ตอนแรกเราก็ชั่งใจอยู่ พอไปเจอน้องที่รู้จักกันที่สถาบันแนะนำว่าเรียน IELTS จากที่นี่ไปเลยดีเพราะมีข้อสอบตัวอย่างให้ได้ทดลองทำทุกสัปดาห์ หรือ ทุกวันพฤหัสบดี แล้วก็ในพาร์ทการเขียนจะได้เรียนแบบ 1:1 เขาก็จะพาเขียนเลย เจาะเป็นหัวข้อ ๆ ไปมีแพทเทิร์นในการเขียนให้ด้วย แล้วก็มีหนังสือคำศัพท์ที่ช่วยได้มากทั้งพาร์ทพูดและเขียนค่ะ

สำหรับใครที่ความรู้ IELTS เป็นศูนย์มิวก็มองว่าโอเคเลยเพราะเขาจะมีหนังสือที่อธิบายละเอียดมาก ๆ ตั้งแต่พื้นฐานให้เราได้ฝึกไปพร้อมกับครูที่ดูแลอย่างใกล้ชิดทีละขั้นตอนด้วย แต่หนังสือพวกนี้เราต้องซื้อเพิ่มนะคะประมาณ 100 – 150 เปโซ แต่ก็จะมีบางเล่มที่ถ้าเรามีไฟล์หนังสือที่ใกล้เคียงกันก็ไม่ต้องซื้อได้ค่ะ

เรียนหนักไหม การบ้านเยอะหรือเปล่า ?

สำหรับมิวหนักพอสมควรเลย คลาสแรกเราเริ่มเรียนกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า เลิก 17.05 น. พอเข้าไปในคลาสแล้วครูจะไม่ค่อยคุยนอกเรื่องเท่าไหร่ จะเน้นเรียนเลยแล้วก็ค่อนข้างจี้ให้เราพูดเพื่อให้เรากล้ามากขึ้นค่ะ ด้วยความที่เราเรียน 2 หลักสูตรนะคะ เรามองว่ามันต่างกันมากเลย

ถ้าใน ESL เรียนหนักอยู่แบบพอรับได้ค่ะ เพราะไม่ได้ฝึกหนักขนาดนั้นเน้นพูดแบบเรื่องทั่วไป พูดคุยแบบปกติในชีวิตประจำวัน และพาร์ทแกรมม่าครูสอนดีมากให้เราเข้าใจจริง ๆ ใช้ได้จริงไม่เน้นท่องจำ สอนการใช้ประโยคยกตัวอย่างต่าง ๆ ส่วนใน Active Speaking ที่เรียนเป็นกลุ่มก็จะมีให้จับฉลากเพื่อถกกันในเรื่องต่าง ๆ ในส่วนของฟังพูดอ่านเขียนที่เรียนตัวต่อตัวก็จะมีหนังสือให้และเจาะเป็นบทเรียนไปเลย ให้เราสื่อสารให้ถูกหลักไวยากรณ์ที่มาจากความเข้าใจไม่ใช่การท่องจำค่ะ

ในส่วนของ IELTS มิวรู้สึกว่าใน 1 วันเรียนหนักพอสมควร เพราะเหมือนเราต้องสอบ IELTS ทุกวันเลย เราเรียนทั้ง 4 พาร์ท ฟัง พูด อ่าน และเขียนครบในวันเดียวทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยวซึ่งจะมีแบบวัดระดับภาษาที่เป็นข้อสอบ IELTS ให้เราทำตั้งแต่ต้นเพื่อปรับการสอนให้เหมาะสมกับเรา ยกตัวอย่างในพาร์ทการเขียนครูเขาพาฝึกจนเราคะแนนขึ้นมาเยอะเลย จากคะแนนเรา 4.5 ขึ้นมาเป็น 5.5 เลยค่ะ ในส่วนของพาร์ทการอ่านครูก็จะให้เราทำเองก่อนแล้วค่อยเฉลยและบอกแนวทางการแก้ไขให้ดีขึ้นเป็นจุด ๆ เลย พาร์ทของการพูดก็คือดีเลยเรียนแบบตัวต่อตัวแนะนำวิธีการพูดให้ได้คะแนนสูงขึ้นด้วย ใช้คำที่สละสลวยและแอดวานซ์พร้อมทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ มีมาให้ตลอดค่ะ แล้วก็มี Mock Test ทุกวันพฤหัสบดี ประกาศคะแนนวันศุกร์ซึ่งจะบอกแค่รหัสนะคะไม่มีชื่อ คือทำให้เราได้เห็นพัฒนาการเราทุกวีคจริง ๆ เป็นผลลัพธ์จากการเรียนหนักที่เห็นได้เลยค่ะ

ส่วนการบ้านก็มีนะคะ การบ้านพาร์ทการอ่านก็จะอยู่ที่ความสมัครใจว่าอยากได้การบ้านไหม อย่างปกติเลยก็มีอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ส่วนพาร์ทการเขียนจะต้องจำกัดเวลาเขียนในกรอบเวลาที่กำหนดเลยไม่มีการบ้านค่ะ

การสอน/เทคนิคการสอนของครูที่เราประทับใจ ?

มิวว่าสำเนียงของครูฟิลิปปินส์คือฟังง่ายกว่า Native ค่ะ แต่จะมีติดแค่สำเนียงตัว T ที่ครูฟิลิปปินส์จะออกเสียงเป็น ตึ เช่น Time ก็เป็น ตาม แต่นอกนั้นคือมิวชอบเทคนิคการสอนแบบให้เรามั่นใจกล้าที่จะพูด ให้กำลังใจดีมาก

แรกเริ่มมิวบอกปัญหาของตัวเองว่าฟังรู้เรื่อง แต่เราแปลไม่ทัน ไม่ได้เข้าใจ ณ ตอนที่กำลังสนทนาอยู่เลย การเรียน ESL Classic ก็ช่วยได้เยอะมากเพราะเป็นการปูพื้นฐานเราก่อนเลย

ทางครูที่สอนก็เลยพยายามที่จะพูดช้าลง แล้วถ้าคำศัพท์ไหนที่เราไม่เข้าใจครูก็จะพยายามอธิบายด้วยคำศัพท์ที่ง่ายขึ้น และบอกให้เราเห็นว่ามันใช้ในบริบทนี้นะ และมิวว่ามันได้ผลนะ มิวใช้คำ ๆ นั้นโดยอิงจากบริบทจนชินจนเป็นธรรมชาติไปเองเลย

ครูบอกว่าเรามั่นใจมากขึ้นนะ จากตอนแรกที่เจอเพราะตอนอยู่ไทยคือเราก็กลัวที่จะพูดกลัวพูดผิดบ้าง แต่พอไปเรียนที่ EV คือทุกคนมาด้วยเป้าหมายเดียวกันคือการฝึกภาษา มันก็เคยไม่เขินอายที่จะสื่อสารออกไปค่ะ ก็คือพูดไปเลย อยากพูดอะไรพูดไปก่อนถ้าผิดครูก็แก้ไขให้ค่ะ

เล่าถึงบรรยากาศเมืองเซบู ?

อย่างที่มิวบอกเลยว่าในสถาบันเรากับด้านนอกคือต่างกันมาก อย่างตอนเลิกเรียนมิวจะออกมาเดินข้างนอกสถาบัน พื้นถนนที่แม้จะเป็นคอนกรีตแล้วแต่ก็เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และมีน้ำไหลมาจากภูเขา แล้วสิ่งที่ช็อกมากคือเราเจอคนไร้บ้านที่มานำขยะไปประกอบอาหารใหม่ ซึ่งได้ยินมาบ้างแต่ก็แอบช็อกอยู่ดีค่ะ แล้วก็ร้านอาหารต่าง ๆ อาจจะยังไม่ได้เจริญขนาดนั้น แต่ถามว่าเราใช้ชีวิตได้ไหม ได้ค่ะ ก็ปรับจนชินไปเอง ^^

การเดินทางเองในเมืองเซบูยากไหม ?

ถ้าออกจากสถาบันจะต้องข้ามถนนไปอีกฝั่งแล้วจะมีป้าย Jeepney บอกซึ่งมีหลายสาย ซึ่งก็จะมีชื่อสถานที่บอกชัดเจนเลยว่าไป Colon หรือ Ayala แล้วก็มิวเคยนั่งแท็กซี่ 1 ครั้งถ้วนเพราะว่ามันแพงมาก คือ มิเตอร์เขาไม่ได้เหมือนในไทย มิเตอร์จะวิ่งตามระยะเวลาที่เรานั่งอยู่บนรถไม่ได้คิดตามระยะทาง แล้วบางทีหน้าสถาบันนี่แหละก็รถติดแล้ว แล้วส่วนถ้าวันไหนที่ฝนตกก็หา Jeepney ไปห้าง Ayala ยากมาก

แต่ส่วนตัวแนะนำว่าถ้าไปก็นั่ง Jeepney ดีกว่า ซึ่งถ้าบอกว่าเป็นนักเรียนที่ EV จะได้ราคา 11 เปโซจาก 15 เปโซคือลดทุกสายเลย ถ้าไปกลับห้างที่มิวไปบ่อย ๆ นี่ก็ไม่เกิน 30 – 35 เปโซ แต่ถ้าเป็นแท็กซี่เราเสียไปตอนนั้น 300 กว่าเปโซเลย

Weekend ในเมืองเซบูทำอะไรบ้าง ?

มิวเดินทางเองบ่อยที่นี่ได้นั่งรถ Jeepney มิวขึ้นไปตั้งแต่วีคแรก ๆ เพื่อไปเซอร์เวย์สถานที่ แล้วก็ได้เจอกับตลาดกลางคืน Colon Night Market เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ของกินเยอะ ของราคาถูกดีค่ะ อาหารแปลกๆ เยอะดีค่ะ แล้วก็ตรงตลาดจะเป็นแหล่งที่เสื้อผ้าขายเยอะสุดมิวก็ไปช่วงวันหยุดบ่อยๆ

นอกจากนี้ถ้าช่วงวันหยุดมิวจะชอบไปหาของกินอร่อย ๆ ค่ะ ลองอาหารใหม่ ๆ จะชวนเพื่อนไป Ayala Mall เป็นห้างที่ของถูกมาแต่สังเกตเลยว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ทุกร้านเลย ร้านอาหารก็ยังมีค่ะ อาจจะมีเหตุผลของมันที่เจ้าหน้าที่ต้องเยอะขนาดนี้ แต่ก็รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นค่ะ

แล้วก็ที่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวน้ำตก ทะเล เพราะมิวมองว่าคนเยอะค่ะ เลยไม่ได้ไปแนวธรรมชาติเท่าไหร่ค่ะ

เตรียม Pocket money ไปเท่าไหร่ดี

ส่วนตัวมิวเน้นกิน เน้นชอปปิ้ง ออกแค่ช่วงเสาร์อาทิตย์นอกนั้นอยู่ในสถาบันและไม่ค่อยไปเที่ยวธรรมชาติเลย ก็ใช้เดือนละ 15,000 บาท/เดือน แล้วเราเคยลองกดเงินในเซบูถ้าเรามีบัตร Travel Card ค่าธรรมเนียมจะชาร์ตเท่ากันทุกธนาคาร คือ 250 เปโซ กดได้สูงสุด 10,000 เปโซ

สุดท้าย สิ่งที่ประทับใจและไม่ประทับใจในการไปเรียนครั้งนี้ ?

สิ่งที่ประทับใจเลยคือการเรียนการสอนที่ครูใส่ใจทุกคน ทุ่มเทให้เรามาก ตอนแรกไม่คิดว่าเขาจะ Cheer up เราขนาดนี้ ทำให้เราอยากที่จะตื่นไปเรียนในทุกเช้ามากขึ้น แล้วด้วยความที่เราล้อมรอบไปด้วยผู้คนที่ใช้ภาษาอังกฤษ ทำให้เราอยากพูดให้ได้

ส่วนที่ไม่ประทับใจที่สุดขอเลือกเป็นรสชาติอาหารในสถาบันนะคะ นอกจากนั้นโอเคหมดเลยค่ะ ถ้าอยากพัฒนาภาษาอย่างก้าวกระโดดเน้นการใช้งานจริง ไม่ได้เน้นการท่องจำซึ่งไม่ได้ผลจริงเท่าไหร่ การมาเรียนต่อที่เซบูดีมากค่ะ และค่าครองชีพ สภาพแวดล้อมไม่แตกต่างจากไทยเท่าไหร่ อยากให้เพื่อน ๆ มาสัมผัสด้วยตัวเอง เพราะทั้งหมดนี้เป็นภาพจากในมุมที่มิวมองเท่านั้นนะคะ ^^

เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบัน EV Academy

Photo Credits : มิว
# รีวิว เรียนหลักสูตร ESL ClassicI และ IELTS ที่ EV Academy โดย มิว

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน