[รีวิว] เรียนหลักสูตร MBA ที่แคนาดา กับสถาบัน Vancouver Island University โดย คุณนิกส์

อะไรทำให้ตัดสินใจมาเรียนต่อที่แคนาดา?

เริ่มมาจากกระแสโยกย้ายนี่แหละครับ คิดว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะตามมาเพราะเรื่องนี้ครับ มันก็เลยทำให้ได้คิดว่า หรือว่าเราควรไปหาโอกาสที่ต่างประเทศ บวกกับว่าอยากหาประสบการณ์การทำงานที่ต่างประเทศด้วยครับ

ทำไมต้องเป็นประเทศแคนาดา?

อย่างแรกเลยคือ นโยบาย work permit ที่เขาให้หลังเรียนจบและสามารถยื่นขอ PR ได้ ชอบสภาพอากาศที่ประเทศแคนาดาด้วย อยากมาสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายและแคนาดาเปิดโอกาสให้สามารถหางานต่อหลังเรียนจบได้ เขาต้อนรับคนต่างชาติให้มาเรียนต่อ เลยคิดว่าต่อไปถ้าได้ทำงาน น่าจะได้รู้จักคนจากหลากหลายประเทศด้วยครับ

หลังจากมาอยู่ที่นี่แล้วชอบไหมคะ คิดว่า Vancouver Island เป็นอย่างไรบ้าง?

เราชอบวิวมาก ด้วยความที่มันติดทะเลและเป็นเมืองท่า มองไปฝั่งตรงข้ามก็เห็นภูเขา คนก็ไม่เยอะด้วย แต่เป็นเพราะคนไม่เยอะก็เลยทำให้รถบัสมีไม่เยอะด้วย จะไปไหนทีต้องวางแผน เปิด Google Map เช็คเวลาดี ๆ จะมีรถบัสเร็ว ๆ นี้ไหม เพราะถ้าพลาดไป รถคันถัดไปอีกครึ่งชั่วโมงเลยนะ แต่ผมโชคดีตรงที่ได้บ้านอยู่ใกล้โรงเรียน ส่วนใหญ่เลยเดินไปเรียน ส่วนข้อเสียก็ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะเขตที่อยู่หรือเปล่านะที่มีคนไร้บ้านเยอะมาก ไม่ใช่แค่เขาไม่มีเงิน แต่เขาเล่นยาด้วย เวลาเดินตอนกลางคืนก็เลยรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย อีกอย่างคือร้านค้า ห้างต่าง ๆ ที่นี่ปิดค่อนข้างเร็ว 3 ทุ่มก็ปิดหมดแล้ว

แต่สิ่งที่พี่ชอบคือ ชอบที่เขาเป็นมิตร อย่างที่นี่มันมีสวนสาธารณะเยอะ เวลาเราไปเดินแล้วสวนกับคนที่นี่ เขาจะยิ้มทักทาย ไม่เหยียดด้วย เหมือนมันเป็นบรรทัดฐานของเขาเลยมั้ง เพราะก่อนที่จะเข้าเรียนจะมีปฐมนิเทศ มันจะมี Do กับ Don’t ตรงส่วน Don’t จะใส่ไว้เลยว่าพฤติกรรมการเหยียดเชื้อชาติ ความพิการ เหยียดเพศเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในสังคมนี้

ทำไมเลือกเรียน หลักสูตร MBA ที่ Vancouver Island University?

พอย้อนกลับไปตอนทำงานที่ไทย แล้วเราอินกับการบริหารและการตลาด สุดท้ายก็ตัดสินใจมาเรียนต่อปริญญาโท ด้าน MBA เพราะรู้สึกว่าเราจบปริญญาตรีมาแล้ว จะกลับไปเรียนซ้ำป.ตรีอีก 4 ปี ก็คงไม่เวิร์คเท่าไหร่ หลังจากตัดสินใจว่าจะเรียนอะไรแล้วก็เปรียบเทียบ MBA ของแต่ละที่ว่าที่ไหนมีวิชาที่เราสนใจ เพราะแต่ละที่สอนไม่เหมือนกัน จนมาจบที่มหาวิทยาลัยนี้เพราะมีวิชาที่เราสนใจครับผม

หลังจากเรียนแล้วคิดว่าได้อะไรจากที่นี่บ้าง มีอะไรที่ประทับใจหรือไม่ประทับใจเกี่ยวกับตัวหลักสูตรและโรงเรียนนี้บ้างคะ?

อย่างแรกเลย เราชอบที่อาจารย์เขาเป็นกันเอง ถ้าเป็นที่ประเทศไทย ถ้าเราถามอะไรอาจารย์มาก ๆ เขาก็จะรำคาญใช่ไหม แต่ที่นี่ ถ้าเราไม่เข้าใจ เขาก็จะยินดีที่จะตอบและอธิบายจนกว่าเราจะเข้าใจ แต่ถ้าเราไม่พูดอะไรเลย เขาก็จะถือว่าเราเข้าใจนะ แล้วก็รวมไปถึงการเรียกชื่อเขาด้วย ไม่ต้องเรียก Professor นำหน้าก็ได้ เรียกแค่ชื่อเขาก็พอ

อย่างที่สอง คือ ไม่ต้องสอบ GMAT จริง ๆ ข้อนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่เลือกหลักสูตรที่นี่ด้วย เราไม่ต้องใช้คะแนนสอบ GMAT ตอนยื่นเข้า แต่ทีนี้พอไม่ต้องใช้คะแนนสอบ พอเรามาเรียนจริง ก็แอบเหนื่อยวิชาที่ต้องใช้เลข อย่าง Economics และ Finance แต่ดีตรงที่มีเพื่อนคอยช่วยเหลือ เราไม่ได้เรียนแข่งกันขนาดนั้น ถ้าเกิดไม่เข้าใจก็มีนัดรวมกลุ่มติวกันหลังเลิกเรียน ชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมงบ้าง แล้วที่นี่เขาทำงานเป็นทีม เกือบทุกวิชา 80% จะเป็นงานกลุ่ม เวลาจะส่งงานก็ต้องรอส่งทั้งทีม นี่ว่ามันก็แอบเป็นข้อเสียไปในตัว ถ้าเราได้คนที่ไม่ได้สนใจเรียน ก็อาจจะไม่ดี ซึ่งมันเป็นความผิดของเขารึเปล่า เพราะบางคนมาเน้นทำงาน เก็บเงิน แล้วเขาไม่ได้โฟกัสกับสิ่งที่เรียน ซึ่งมันกระทบกับเราด้วยไง แรก ๆ ก็ลำบาก แต่ดีตรงที่ท้ายเทอมเขาจะมีให้ส่ง Feedback ว่าเรารู้สึกยังไงกับเทอมนี้ ซึ่งเราก็ให้ Feedback ไปว่าเราควรจะสามารถเลือกสมาชิกกลุ่มเองได้ พอเทอมถัดมาเขาก็ให้เลือกเองได้ ก็ดีที่มีการปรับตาม Feedback ที่เราให้ไป

อย่างสุดท้าย มันมีวิชาที่เราอยากเรียนอยู่ของที่นี่ พอได้เรียนก็คือไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะวิชา Data Analysis เขาสอนโปรแกรมที่เอาไว้วิเคราะห์ข้อมูลโดยเฉพาะเลย แล้วก็ได้เรียนการเขียนโปรแกรมนิดนึง ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากมากจนเราไม่เข้าใจเลย ถือว่าพอใจที่คิดถูกที่มาที่นี่ เพราะได้ในสิ่งที่เราต้องการ

หลังจากเรียนจบ มี plan หรือ ตัดสินใจอย่างไรต่อ?

หลังเรียนจบ ก็หางานทำที่นี่ และมีแผนยื่นขอ PR ต่อครับ

มีข้อคิด หรือคำแนะนำอะไรสำหรับ คนที่กำลังตัดสินใจอยากมาเรียนต่อ หรือ มาอยู่แคนาดาบ้างไหม?

ฝึกทำอาหารเลยครับอันดับแรก เพราะว่าต้องคิดถึงอาหารไทยชัวร์ อาหารนอกบ้านก็แพงมาก แล้วทำอาหารกินเองถ้าทำไม่เก่งเราก็จะไม่สนุกกับการทำกินเอง เพราะงั้นฝึกทำอาหารมาเลยครับ แล้วก็ควรทำการบ้านหาข้อมูลเมืองที่เราจะอยู่ให้เยอะ ๆ เรื่องสภาพภูมิอากาศ แต่ละช่วง แต่ละหน้า ควรนำเสื้อผ้ามาเท่าไหร่ เรื่องวัฒนธรรม ลักษณะนิสัยของผู้คน

อีกคำแนะนำคือ เราควรทำงานพาร์ทไทม์ที่เป็นของต่างชาติ คือถ้าเรามาที่นี่แล้วทำงานกับคนไทยหรือคนที่เราคุ้นเคย เราจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงานกับคนต่างชาติเลย แนะนำว่าไหน ๆ เราก็มานี่แล้ว บินมาตั้งไกลก็ควรจะหางานของคนแคนาดาดีกว่า เราจะได้เรียนรู้ว่าวิธีการทำงานของเขาเป็นอย่างไร แตกต่างจากประสบการณ์ที่เราเคยเจอมาไหม

คุณนิกส์ทำงานพาร์ทไทม์ในสายที่เรียนรึเปล่าคะ?

ไม่ได้ทำสายที่เรียนครับ แต่เป็นคนคุมสอบ คล้าย ๆ กับ พวกสอบวัดระดับ IELTS ไรงี้ ที่ต้องพาคนไปปั๊มลายนิ้วมือ พาเข้าห้องสอบ ตรวจว่ามีอะไรเข้าไปในห้องสอบไหม ซึ่งก่อนหน้านี้เรามาด้วยวีซ่าเรียนภาษาอังกฤษ มันยังไม่สามารถทำงานได้ พอเราเรียน ESL จบ ก็ทำเรื่องยื่นขอ Study Permit ซึ่งใช้เวลานานมากกว่าจะได้ ก็เลยยังไม่ได้ทำงาน แต่เขาอนุญาตให้ทำงานในมหาวิทยาลัยได้ เราเลยรับเป็นตัวแทนนักศึกษาชั้นปริญญาโท ซึ่งมันได้ค่าตอบแทน อย่างเราเข้าประชุมเดือนละ 2 ครั้ง เราก็จะได้เบี้ยประชุม หรือบางครั้งมันจะมี Event มหาวิทยาลัย ถ้าเราไปช่วยงานเขา เราก็จะได้ค่าตอบแทน แต่ด้วยความที่เราเองไม่ได้อัดชั่วโมงทำงานมากเท่าไหร่ บางคนเขาทำงานเกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เลยก็มี แบบกะมาทำงานเลย แต่ว่าเราทำนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ได้กะทำเยอะอะไร มันเลยเป็นเหมือน พาร์ทของพาร์ทไทม์อีกที

รีวิวก้อปันกันให้ฟังได้ไหมคะ อะไรทำให้เลือกใช้บริการของก้อปันกัน?

ตอนนั้นด้วยกระแสโยกย้าย ก็ดูจากในกรุ๊ปและลองเสิร์ชว่าถ้าไปเรียนต่อแคนาดาใช้เอเจนซีไหนดี ตอนแรกแอดไลน์เจ้าใหญ่ไปเขาตอบช้า เจ้าที่สองก็ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น หรือเขาคนเยอะก็ไม่รู้ แล้วก็มาเจอก้อปันกันเป็นเจ้าที่สาม ซึ่งประทับใจคุณกันต์มาก เพราะใส่ใจ ตอบเร็ว มีการอัปเดต เขารู้ละเอียด อธิบายเป็นขั้นตอนเลย หนึ่งสองสามคืออะไร รู้ลึกรู้จริง และก็ชอบระบบ Portal หลังบ้านเขามากเลยหลังจากที่เราสมัครมากับเขาแล้ว เอกสารต่าง ๆ สามารถติดตามได้หมดเลยว่าส่งอะไรไป ต้องเตรียมอะไรต่อ แนะนำก้อปันกันเลยครับสำหรับใครที่อยากมาเรียนต่อแคนาดา

นัดหมายพูดคุยผ่าน