Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wp-table-builder domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-includes/functions.php on line 6114

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wp-table-builder domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-includes/functions.php on line 6114

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192
รีวิว เรียนหลักสูตร ESL Classic กับ EV Academy โดย ไปป์

[รีวิว] เรียนหลักสูตร ESL Classic กับ EV Academy โดย ไปป์

รีวิว เรียนหลักสูตร ESL Classic กับ EV Academy
ระยะเวลา 4 สัปดาห์ (26 March – 22 April 2023)

โดย Nuttakran Thongnual (Pipe)

ทำไมถึงเลือกไปเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะไปหรอกครับ คุณพ่อเขาพูดเรื่องการไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศพอดี แล้วผมก็อยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษของผมด้วย เผื่อว่าในอนาคตอาชีพที่ผมอยากทำต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารครับ

ทำไมถึงเลือกเรียนกับ EV Academy

คุณพ่อเป็นคนเลือกให้ครับ และผมก็ลองเปรียบเทียบกับสถาบันอื่น ผมคิดว่าที่นี่น่าจะสะดวกกว่า โอเคกว่าครับ

คลาสเรียนเป็นอย่างไรบ้าง

ช่วงแรกๆ ผมตื่นเต้นมากเลยครับ เพราะผมยังเด็กอยู่คนเดียว พอเรียนคลาสกลุ่มเรียนรวมกับพวกผู้ใหญ่ บางทีผมก็กดดันครับ แต่ถ้าเรียนคลาสเดี่ยวคือดีมากเลยครับ คุณครูใจดี ชวนพูดคุยอยู่ตลอดเวลา แล้วผมก็ชอบพูดภาษาอังกฤษมาก ทำให้ผมรู้สึกสนุก ซึ่งการที่ผมได้พูดตลอดเวลามันทำให้ทักษะการพูดของผมพัฒนาขึ้นไวมากครับ

จัดกระเป๋าอย่างไร

ตอนแรกผมคิดว่าจะเอาแค่กระเป๋าเป้ไปแค่ใบเดียว แต่พอลองใส่ผ้าเข้าไปปรากฎว่าไม่เหลือพื้นที่ให้ใส่สิ่งอื่นเลยครับ (หัวเราะ) ผมเลยเอาไป 2 ใบ ผมเอากางเกงยีนส์ไป 3 ตัว ซึ่งผมไม่ได้ใช้เลยครับ ผมใส่แต่กางเกงวอร์ม เพราะใส่กางเกงยีนส์ร้อนมาก แล้วผมเอาเสื้อกันหนาวมาด้วยตั้ง 2 ตัว ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอามาทำไม ไม่ได้ใช้เลยครับ อากาศร้อนเหมือนที่ไทยเลย แนะนำให้เอาเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ๆ ไปก็พอ

การต่อเครื่องเป็นอย่างไร ต้องดีแคลร์กระเป๋าใหม่ไหม

ช่วงที่ผมไปเรียนเป็นช่วงที่คนไทยยังไม่ค่อยไปกัน ซึ่งทำให้ไม่มีไฟลท์บินตรง ผมเลยต้องไปต่อเครื่องที่มะนิลา ตอนผ่านตม.เจ้าหน้าที่ถามผมว่ามาทำอะไร อายุเท่าไหร่ มาคนเดียวเหรอ ผมก็ตอบตามความจริงแล้วก็แสดงใบตอบรับจากโรงเรียนให้เจ้าหน้าที่ดู ซึ่งก็ผ่านแบบไม่มีปัญหาอะไร พอผ่านตม.ผมก็เดินไปรับกระเป๋า พอรับเสร็จผมก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องเดินไปทางไหนยังไง ต้องทำอะไรต่อ จะต้องดีแคลร์กระเป๋าใหม่ไหม ผมก็เลยไปถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็บริการดีมาก เขาพาผมไปหาเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องกระเป๋า ซึ่งกระเป๋าไม่ต้องดีแคลร์ใหม่แค่นำกระเป๋าไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้น

ตอนผมอยู่บนเครื่องเขาก็ให้ใบตม.มากรอก ซึ่งผมก็ไม่รู้เลยว่าต้องกรอกอะไรบ้าง บางช่องผมก็เว้นไว้ พอไปยื่นก็ผ่านครับ พอผ่านตม.แล้วเดินออกมาก็เจอเจ้าหน้าที่มายืนถือป้ายชื่อโรงเรียนรออยู่แล้วครับ แล้วเจ้าหน้าที่ก็พาไปที่รถ ลักษณะรถจะคล้าย ๆ รถฟอร์จูนเนอร์ ทั้งรถมีนักเรียนแค่ 3 คน สภาพรถก็ไม่ได้เก่า แต่ก็ไม่ได้ใหม่ ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงโรงเรียนครับ

ปรับตัวยากไหม

ช่วงแรกก็ยากอยู่ครับ เพราะผมเด็กอยู่คนเดียว แต่ผมเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายอยู่แล้วครับ ช่วงหลัง ๆ ก็ปรับตัวได้ ไม่มีปัญหาอะไร

สำเนียงครูฟิลิปินส์เป็นอย่างไร

ฟังไม่ยากครับ สำเนียงจะเป็นอเมริกัน มีแค่ครูบางคนที่ยังติดสำเนียงตากาล็อคอยู่ คุณครูเขาบอกว่าผมพูดภาษาอังกฤษเร็วมาก เมื่อเทียบกับคนไทยอีกคน คุณครูถามผมว่าผมพูดภาษาเดียวกันกับเพื่อนไหม เพราะว่าผมพูดเร็วมากเลยครับ (หัวเราะ)

เรียนภาษา 4 สัปดาห์มีการพัฒนาอย่างไรบ้าง

ตอนผมมาแรก ๆ ผมสามารถพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย แต่หลังจากเรียนจบทักษะการพูดของผมพัฒนาขึ้นมาก ผมพูดได้คล่องขึ้น และมั่นใจมากขึ้นเวลาพูด

วิชาที่ชอบที่สุด วิชาที่ไม่ชอบ

ผมไม่ค่อยชอบวิชา Grammar ครับ เพราะมันยาก และคุณครูอึมครึม (หัวเราะ) ส่วนวิชาที่ผมชอบที่สุดเลยจะเป็นวิชา Active Speaking ครับ มันจะเป็นการพูดอย่างเดียวเลย และมีการทำ Presentation ด้วย ซึ่งคุณครูจะให้หัวข้อเรามาทำเป็นการบ้าน เราก็หาไอเดียว่าเราจะพูดอะไรบ้าง เขียนสคริปไว้เตรียมพูด แล้วก็มีโชว์รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราจะนำเสนอด้วยครับ มันสนุกมาก ๆ ผมชอบมากเลยครับ

คอร์สเรียนเป็นอย่างไร

เริ่มเรียน 8 โมงเช้า เลิกเรียน 5 โมงเย็น มีคลาสกลุ่มและตัวต่อตัว คลาสตัวต่อตัวจะมี 4 คาบ Speaking, Writing, Reading และ Listening ส่วนคลาสกลุ่มก็มี 4 คาบเหมือนกัน มี Grammar, Listening, Active Speaking และ Presentation ในแต่ละคาบก็จะมีการบ้านซึ่งเยอะมากเลยครับ

มีการบ้านเยอะไหม

มีการบ้านเยอะมาก ทำจนไม่ไหวเลยครับ (หัวเราะ) แต่ผมก็ทำทันนะครับ ผมชอบทำการบ้านในคาบที่เป็น Self Study

เคยป่วยไหม ทำอย่างไร ติดต่อเจ้าหน้าที่ยากไหม

เคยครับ ครั้งนึงผมรู้สึกไม่สบาย แล้วเพื่อนที่เรียนคลาส Grammar ด้วยกันเขาเป็นโควิด ผมก็นึกว่าจะเป็นแต่ก็ไม่ได้เป็นครับ ติดต่อเจ้าหน้าที่ง่ายมากเลยครับ ช่วงผมป่วยผมก็ไปขอยากับพี่เมเนเจอร์ เขาก็จะมีห้องพยาบาลให้นอนพักถ้าเราไม่ไหว และถ้าเราเป็นหนักมากก็สามารถเรียกพยาบาลจากข้างนอกมาได้เลยครับ

เพื่อน ๆ มาจากประเทศอะไรกันบ้าง

ส่วนมากจะเป็นประเทศ จีน เกาหลี ญี่ปุ่นครับ ไต้หวัน เวียดนาม ครับ

วันเสาร์-อาทิตย์ ได้ออกไปเที่ยวไหม

ช่วงสัปดาห์แรกผมไปเที่ยวที่ห้าง Ayala และ IT Park ครับ พอช่วงสัปดาห์หลังไป Mactan Beach กับเพื่อน ๆ ไป Aquariam แล้วก็ไปน้ำตกที่อยู่ไม่ไกลจากสถาบันครับ ซึ่งตอนไปเที่ยวน้ำตกกับเพื่อน พวกผมก็เรียกแท็กซี่ข้างหน้าโรงเรียน ตอนแรกแท็กซี่เขาจะไม่ยอมกดมิเตอร์เพราะเขาบอกว่าทางมันไปยาก พอคุยตกลงกันไม่ได้ เจ้าหน้าที่รปภ.ที่โรงเรียนมาคุยให้ เขาจึงยอมกดมิเตอร์ แต่พอไปถึงน้ำตก เขาขึ้นค่าแท็กซี่เป็น 2 เท่าเลยครับ ซึ่งพวกผมก็ต้องยอมจ่ายไป ตอนเดินเข้าไปที่น้ำตกนี้ผมรู้สึกว่ามันน่ากลัว ไกด์ที่นั่นก็แพงเลยไม่ได้ซื้อไกด์ ทางเดินเหมือนเดินอยู่กลางป่า แต่ข้างทางก็มีบ้านคนอยู่ครับ บางทีก็หลงทางบ้าง ทางเป็นเนินเขาบ้าง เดินขึ้นเดินลง เหนื่อยมากครับ แล้วพอถึงน้ำตกจริง ๆ ก็ไม่อยากเล่นเลยครับ เพราะคนเล่นน้ำเยอะมาก จนน้ำมันขุ่น ไม่ใส พวกผมก็เลยแค่เดินชมรอบ ๆ แล้วก็เอาขาจุ่มน้ำเฉย ๆ ครับ

ห้องพัก และรูมเมทเป็นอย่างไร

ตอนแรกเจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำห้องต่าง ๆ ในโรงเรียน และก็พาขึ้นไปชั้นห้องพักนักเรียน ผมได้พักกับรูมเมท 2 คน เป็นคนญี่ปุ่น อายุ 29 กับคนเกาหลี อายุ 25 ครับ ห้องพักเป็นวิวสระน้ำครับ วิวสวยดี มีแอร์ แต่ไม่มีพัดลม ตอนแรกผมคิดว่าประตูห้องน้ำมันล็อกไม่ได้ แต่เปล่าเลยครับผมแค่ล็อกไม่เป็น (หัวเราะ) ลูกบิดประตูที่ไทยมันจะกดล็อกตรงกลาง แต่ลูกบิดที่นี่ต้องบิดลงถึงจะล็อกได้ แล้วก็ไม่มีสายฉีดก้นครับ รูมเมทคนเกาหลีพอเจอกันครั้งแรก เขาก็ให้เงินผมด้วยเป็นเงินเกาหลี เขาบอกว่าเป็นธรรมเนียมของคนเกาหลีถ้าเจอคนอายุน้อยกว่ามาก ๆ ต้องให้เงิน

บริการซักผ้าเป็นอย่างไร

ที่ EV จะส่งผ้าซักได้วัน จันทร์ พุธ เสาร์ ถ้าส่งผ้าซักวันเสาร์ก็จะได้เสื้อผ้าเช้าวันจันทร์ครับ สามารถขนผ้าไปซักเองข้างนอกได้ หรือว่าจะซักเองก็ได้ทางโรงเรียนมีที่ตากผ้าให้ เวลาจะให้ส่งผ้าซัก 1 ห้องจะส่งได้ 1 ถุงรวมกัน ซึ่งผมก็ไม่อยากซักรวมกับรูมเมท ผมเลยถามเขาว่าปกติพี่ ๆ ซักผ้ากันวันไหนครับ พอผมรู้ผมก็ซักผ้ากันคนละวันกับพี่ ๆ ตอนเอาผ้าส่งซักเจ้าหน้าที่ก็จะนับผ้า และมีใบให้เราเซ็น พอผ้าเสร็จเขาก็จะพับผ้าใส่ถุงพลาสติกติดสก็อตเทปมาให้อย่างดี แล้ววางไว้หน้าห้องพัก ผ้าที่ได้ก็สะอาดดีครับ ยกเว้นแต่ผ้าสีขาวซักแล้วไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ มันจะมีรอยเปื้อนเล็กน้อย แต่ก็พอรับได้อยู่ครับ

อาหารที่โรงเรียน

อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารเกาหลี ทุกวันก็จะมี กิมจิ มีต็อกบกกี แล้วก็มีน้ำหวาน 6 อย่าง แต่น้ำที่อร่อยที่สุดคือน้ำเปล่าครับ เพราะน้ำหวานหวานมาก ส่วนอาหารก็ติดเค็มไปจนถึงเค็มมาก ในแต่ละวันอาหารจะไม่เหมือนกัน แต่จะวนรายการอาหารเหมือนเดิมทุกสัปดาห์

อาหารมีกี่มื้อ

อาหารมี 3 มื้อ ทุกวันเลยครับ รวมวันเสาร์อาทิตย์ด้วย แต่บางวันผมก็ไม่ได้ทานอาหารเช้า เพราะผมนอนตื่นไม่ทัน ช่วงเวลาอาหารเช้าจะประมาณ 7-8 โมงเช้า ซึ่งเขาจะเก็บทุกอย่างไปหมดเลยตั้งแต่ 7.50 น. แต่ผมไปซื้อของที่ห้างมาเก็บไว้ทานตอนเช้า ในวันที่ผมตื่นไม่ทันครับ

เตรียม Pocket Money ไปเท่าไหร่ พอไหม

ผมจำตัวเลขไม่ได้ครับ แต่เอาไปเยอะพอสมควรอยู่ เพราะต้องเอาไปจ่ายในส่วนสุดท้ายกับที่โรงเรียนด้วย เหลือประมาณ 9,000 เปโซ ผมคิดว่าถ้าไปเรียนแค่เดือนเดียวเตรียมเงินแลกจากที่ไทยไปเลยประมาณ 9,000-10,000 เปโซก็พอ แล้วก็เตรียมเงินไทยไปด้วยเผื่อไว้ สามารถแลกเงินที่นู่นได้ แต่เรทก็จะต่ำกว่าถ้าเทียบกับแลกที่ไทยครับ สำหรับผม 9,000 เปโซก็พอครับ ส่วนมากจะใช้เงินแค่วันที่ไปเที่ยวข้างนอกโรงเรียน

สภาพแวดล้อมที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง

โรงเรียนดูดีมากเลยครับ ที่โรงเรียนก็จะมีห้องเรียน ห้องพยาบาล มียิม ซึ่งผมเข้ายิมเกือบทุกวันเลย แล้วก็จะมีโต๊ะบิลเลียด ผมไปเล่นทุกวันเลยผมชอบมาก มีโต๊ะปิงปอง มีห้องเรียนโยคะ มีสอนเต้นซุมบ้า มีคนเข้าร่วมคลาสนี้เยอะมาก ผมก็ได้แต่นั่งดูเพราะผมไม่ชอบเต้นเท่าไหร่ (หัวเราะ) มีคาเฟ่ขายน้ำและขนม มีโรงภาพยนตร์ โดยจะฉายนั่งวันเสาร์ช่วงบ่าย 2 หนังที่ฉายส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังของดิสนีย์ แล้วก็มีสระว่ายน้ำ ซึ่งผมก็เล่นบ่อยมาก ครั้งนึงผมเคยโดยหักคะแนนด้วย เพราะกระโดดลงน้ำท่าสวยเกินไป (หัวเราะ)

การเดินทางนอกโรงเรียน

ไม่ยากนะครับ เรียกแท็กซี่ได้เลยสะดวกมาก แต่ก็จะแพงหน่อย ถ้าอยากประหยัดก็นั่งจิปนี่ได้ แล้วผมก็ชอบไปกินร้านชื่อว่า Jollibee ซึ่งมันคล้าย ๆ กับ KFC เลย แต่ว่าคนฟิลิปปินส์เขานิยมทานร้านนี้มากกว่า แล้วการบริการก็ดีกว่า รสชาติอร่อยกว่าด้วยครับ ผมรู้จักร้านนี้เพราะคุณครูผมเขาแนะนำผมมา

ที่โรงเรียนมี Curfew เคยกลับมาไม่ทันไหม

เคยครับ ตอนนั้นผมไปที่ IT Park แล้วผมกลับเข้าโรงเรียนไม่ทันก่อนเวลา Curfew 21.00 น สายไปประมาณ 10 นาที ผมเลยโดนหักไป 2 คะแนน จริง ๆ แล้วผมออกจากที่ IT Park ตั้งแต่เวลา 20.20 น แต่ที่กลับไม่ทันเพราะว่ารถมันติดครับ

สภาพแวดล้อมภายนอกโรงเรียน

ถ้าช่วงกลางวันก็ปกติครับไม่มีอะไร แต่ถ้าเป็นกลางคืนจะน่ากลัวครับ คนฟิลิปปินส์เขาก็ดูเฟรนลี่ดีนะครับ แต่ชอบมองหน้ามากเลย แล้วถ้าเราไปไหนมาไหนคนเดียวหรือไปกับเพื่อนแค่ 2 คน เขาก็จะเดินตามเรา จนบางทีผมกลัวมากเลยหยุดให้เขาเดินผ่านไปก่อนก็มีครับ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไร เพียงแค่เขาชอบมองหน้าพวกเรามากเลยครับ แล้วก็มีพวก Homeless เยอะครับ ซึ่งบางทีผมไม่มีตังให้ก็รู้สึกสงสารพวกเขาครับ

อินเทอร์เน็ตที่ฟิลิปปินส์

อินเทอร์เน็ตช้ากว่าที่ไทยเยอะครับ เหมือนสัญญาณยังไม่ค่อยทั่วถึง อย่างผมซื้อซิมเน็ตมาใช้ พอเดินเข้ามาในห้องนอนบางทีสัญญาณก็เหลือแค่ขีดเดียว หรือใช้ไม่ได้เลยครับ ส่วน Wi-Fi ที่โรงเรียนพอเราใช้ไปสักระยะหนึ่ง สัญญาณก็จะตัดไปเลย ล็อกอินเข้าใช้ไหมก็ไม่ได้ ต้องปิดเครื่องเปิดใหม่ถึงจะใช้ได้ครับ

ประทับใจอะไรที่สุด

การศึกษาครับ คุณครูสอนดีมาก เข้าใจ และเราได้ใช้ภาษาตั้งแต่อยู่ที่สนามบินเลยครับ แล้วพอมาที่โรงเรียนก็มีแต่เพื่อนต่างชาติ ซึ่งเราต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารอยู่ตลอดเวลา เพื่อน ๆ ในคลาสกลุ่มก็ดีมาก ชวนผมคุยด้วยตลอด ไม่แบ่งแยกว่าผมเป็นเด็กเขาเป็นผู้ใหญ่ ผมมีเพื่อนที่อายุ 50 ขึ้นไปเลยครับ เขาก็มาขอนั่งด้วยแล้วก็คุยกัน เขาก็บอกชอบประเทศไทยอยากมาเที่ยว ซึ่งการมาเรียนภาษาที่นี่นอกจากจะได้ความรู้แล้วยังได้มิตรภาพต่างวัยด้วยครับ ซึ่งการฝึกพูดอยู่สม่ำเสมอ ทำให้ทักษะการพูดของผมพัฒนาขึ้น พูดได้คล่อง และมั่นใจขึ้นเยอะมาก ๆ เลยครับ

อยากแนะนำอะไรกับเพื่อน ๆ ที่สนใจมาเรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

ถ้ามีโอกาสมาเลยครับ ไม่ต้องตื่นเต้นนะครับ มาเรียนแล้วนอกจากจะได้ความรู้ ยังได้ประสบการณ์การใช้ชีวิตในต่างประเทศ การเดินทาง ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ได้รู้จักภาษาใหม่ ๆ และได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันครับ

รู้จักก้อปันกันได้อย่างไร

ไม่รู้จักครับ เพราะคุณพ่อจัดการให้หมดเลยครับ

สิ่งที่กังวลก่อนไปเรียน

กังวลเรื่องครู และเพื่อนร่วมชั้นเรียนครับ กลัวครูเขาไม่ค่อยชวนคุย แล้วผมก็เป็นคนแบบว่าถ้าไม่มีใครชวนคุยผมก็จะไม่ชวนใครคุยก่อน ผมก็จะตั้งใจเรียนอย่างเดียว ผมกลัวว่าทั้งวันจะต้องเรียนอย่างเดียว ไม่ได้พูดคุยเลย กลัวว่าจะเบื่อและกดดันเกินไปครับ แต่พอได้เรียนจริง ๆ ก็ไม่ได้เป็นแบบที่ผมกังวลเลยครับ คุณครูเขาชวนผมคุยตลอดเวลา แล้วก็สอนโอเคมาก ส่วนเพื่อนร่วมชั้นผมแอบตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะนักเรียนคนอื่น ๆ อายุเยอะกว่าผมมาก แต่เพื่อน ๆ ก็น่ารักดีครับ บอกผมว่าไม่ต้องตื่นเต้น เราก็เป็นเพื่อนกันนี่แหละ มาเรียนด้วยกัน

ฟิลิปปินส์ก่อนและหลังไป

คิดว่าที่ฟิลิปปินส์อากาศดีกว่าที่ไทย ไม่ร้อนมาก มีลมเย็น แต่พอไปถึงจริง อากาศไม่ต่างกันเลยครับ ร้อนมากเหมือนกัน แต่พอกลับไทยมาร้อนมากกว่าอีกครับ

ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปเรียนอีกไหม

ผมวางแพลนกับคุณพ่อไว้แล้วว่าจะกลับไปเรียนอีกครับ แต่ต้องรอช่วงปิดเทอมของมหาลัยเลย ผมอยากกลับไปใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน อยากฝึกพูดทุกวัน อยู่ไทยไม่ได้พูดเลย และอยากไปใช้ชีวิตที่ฟิลิปปินส์อีกครับ

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ EV Academy

Photo Credits : Nuttakran Thongnual (Pipe)
# รีวิว เรียนหลักสูตร ESL Classic กับ EV Academy โดย ไปป์

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน