Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wp-table-builder domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-includes/functions.php on line 6114

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wp-table-builder domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-includes/functions.php on line 6114

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192
ประสบการณ์การเรียนที่ Shoreline Community College รีวิว โดย พลอย

[รีวิว] ประสบการณ์การเรียนที่ Shoreline Community College โดย พลอย

ประสบการณ์การเรียนที่ Shoreline Community College

ประสบการณ์การเรียนที่ Shoreline Community College 

โดย พลอย
หลักสูตร : 2+2 University Transfer

ปัจจุบัน : เข้ารับการศึกษาต่อที่
University of Florida

พลอย เรียนต่อ Shoreline

เริ่มมาสนใจการเรียนใน Community College ได้ยังไง ?

หนูจบ ม.5 ที่โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยก่อนค่ะ พอตอนม.6 ก็เริ่มนึกถึงการเรียนต่อมหาวิทยาลัย วันนึงก็ไปเดินบูธเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศกับพ่อแล้วก็ไปเจอบูธเกี่ยวกับ Community College หนูเองก็ไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับ Community College มาก่อน เคยได้ยินแต่ University ก็เลยลองถามดูว่ามันคืออะไร แล้วเขาก็เลยบอกว่ามันคือการเรียนปี 1-2 ในวิทยาลัย และโอนไปต่อมหาวิทยาลัยตอนปี 3 และปี 4  ส่วน Requirement ก็ไม่ได้ยากมาก ที่เรียนก็น่าสนใจ และเราก็ไม่จำเป็นต้องจบ ม.6 ในไทยก่อน เราสามารถไปเรียนต่อและได้วุฒิ High School Diploma หรือวุฒิ Associate Degree ที่นั่นได้ ก็เลยสนใจ

สภาพแวดล้อมของ Seattle เป็นยังไงบ้าง ?

ถือว่าสะดวกนะเพราะว่ามีรถบัส  พวก Transportation ก็มีหลายแบบแต่รถบัสจะถูกที่สุด อากาศที่นี่ก็จะฝนตกเยอะ แล้วก็มีพวก Metro และรถเหมือน Uber ค่ะ สะดวกขึ้นระดับนึงแต่ก็แพงหน่อย แต่ถ้าอยากปั่นจักรยานก็มีแอพพลิเคชั่นให้เราปั่นจักรยานได้ คล้ายๆเช่าจักรยานและนับเป็นไมล์เอา เขาก็จะคิดเงินตามนั้น

ทำไมถึงเลือก Shoreline Community College ?

หนูได้มาคุยกับพี่กันต์เป็นที่แรกๆ แล้วพ่อก็บอกว่าน่าสนใจดี พี่กันต์ก็บอกว่าทางด้าน Science ที่นี่มันดีและมีการรับรองในหลายๆมหาวิทยาลัย ก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจเลยเลือกที่นี่ค่ะ

ชอบอะไรใน Shoreline Community College ?

ชอบครูแนะแนวค่ะ เด็กนักเรียนที่นี่ใช้บริการครูแนะแนวกันจริงๆ เขาจะแนะนำเราไปในทางที่ถูกต้อง ถ้ามีอะไรที่เราไม่รู้หรือไม่แน่ใจ เราก็สามารถถามเขาได้เลย ที่ Shoreline Community College มีครูแนะแนวหลายแบบมากเลย และครูที่นี่ก็สอนดีค่ะ

ไปเรียนที่ Shoreline Community College แล้วเป็นยังไงบ้าง ?

หนูไม่ได้เรียนหลักสูตร High School Completion ค่ะ เพราะหนูจะเอา GED เลย (เป็นการสอบเทียบระดับมัธยมปลายของอเมริกา) เพราะถ้าจะเอา High School Completion หนูต้องเรียนเพิ่ม ตอนนี้ก็เรียนแบบเป็นการเรียนเพื่อจะไปต่อปี 3-4 ในมหาวิทยาลัยค่ะ มันเหมือนตอนนี้เราเรียนวิชาปี 1-2 ในมหาวิทยาลัย (หลักสูตร 2+2 University Transfer) เพื่อเก็บหน่วยกิตวิชาเรียน แล้วมหาวิทยาลัยที่หนูต้องยื่น เขาไม่ได้ดู Requirement ของ High School Completion ค่ะ หนูก็เลยสอบ GED เอา

ที่ Shoreline ก็มีที่สอบ GED เลยด้วย ตอนนี้หนูก็เหลือ Social อีกตัวนึงเพราะมันมี 4 วิชา อังกฤษ คณิต วิทย์ และสังคม คือ เราเรียนคลาสเรียนปกติของ Shoreline ก็เรียนตัวที่จะ Transfer ไปมหาวิทยาลัยตอนปี 3 ปี 4 เราก็ต้องไปดูว่าที่มหาวิทยาลัยนั้นเขากำหนดว่าเราต้องเรียนวิชาอะไรไปแล้วบ้าง แต่ GED มันคือการจบม.6 อีกรูปแบบนึงที่หมายถึงว่าเราผ่านเกณฑ์ ม.6 ไม่ใช่แบบ High School Completion เพราะอันนั้นจะได้ High School Diploma ด้วย

ตอนที่ต้องทำ GED เรารู้สึกว่ามันยากมั๊ย ?

เลขง่ายมากค่ะ อังกฤษก็เหมือนสอบ IELTS หรือ TOEFL ถ้าได้พื้นฐานตรงนั้นมาระดับนึงก็สอบได้เพราะเขาเอาแค่ผ่าน เขาไม่มีคะแนนกำหนดว่าต้องเอาเท่าไหร่ เขามีแค่ผ่านกับไม่ผ่าน แต่เขาบอกกันว่าสังคมยากแต่หนูยังไม่ได้สอบเลย มันค่อยๆทยอยสอบได้ไม่ต้องสอบทีเดียว

ตั้งใจไปเรียนมหาวิทยาลัยไหน ?

ตอนนี้คิดไว้ 3 ที่ค่ะ คือ University of California, Davis แล้วก็ University of Florida และ Oregon State of University ต้องการไปเรียนด้าน Food – Science ค่ะ

ได้ทำงานใน Campus บ้างรึเปล่า ?

หนูได้ทำงานเป็น IPM ค่ะ คือ International Peer Mentor จะดูแลแค่พวกนักเรียนนานาชาติที่ไม่ใช่นักเรียนอเมริกันค่ะ เช่น นักเรียนจีน นักเรียนอินโดนีเซีย นักเรียนไทย ส่วนใหญ่ตอนทำเยอะสุดก็จะทำช่วงปฐมนิเทศน์ประมาณ 5 วัน เงินก็จะได้เป็นรายชั่วโมงค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 11.33 ดอลล่าร์ต่อชั่วโมง และก็ทำงานประมาณ 2-3 วันแต่ถ้ามีปฐมนิเทศน์ก็ 5 วันรวดเลย เวลาเปิดเทอมแล้วเขาก็จะจัดเวลาให้เราว่าเราต้องทำงานวันไหนบ้าง แล้วก็จะมีประชุมสัปดาห์ละ 1 วัน อย่าง เทอมนี้ประชุมวันจันทร์ และทำงานวันอังคารกับพฤหัสบดี

ตอนที่อยู่โรงเรียนนานาชาติในไทย หนูก็ได้ทำงานเกี่ยวกับกิจกรรมอยู่แล้ว หนูเอ็นจอยกับการทำงานหลายๆคนค่ะ ถึงตอนนี้หนูจะเรียนสาย Food – Science แต่หนูก็ชอบทำงานพวกนี้ ถึงมันจะเหนื่อยจะหนักแต่หนูก็ชอบค่ะ ทำแล้วรู้สึกว่าเพลินดี หนูอยากจะพัฒนาตัวเองให้ดีมากขึ้น รู้จักคนหลายๆคน และอยากฝึกภาษาตัวเองด้วย

ประสบการณ์การเรียนที่ Shoreline Community College Seattle

ทำยังไงถึงได้มาเป็น International Peer Mentor ?

เขาก็จะมีประกาศรับสมัคร มีเพจ เราก็ไปดูว่าเขารับสมัครตอนไหน เราก็เขียนใบสมัครส่งไป ต่อไปก็ต้องทำ Presentation กับกลุ่มคนที่เขาจัดมาให้ และเขาก็จะดูว่าการที่ต้องทำงานกับคนไม่รู้จักเป็นยังไง จากนั้นเขาก็จะดูเราพรีเซ้นท์ ถ้าผ่านเขาก็จะเลือกเราไปสัมภาษณ์ต่อ ถ้าผ่านอีกเขาก็จะโทรมา แต่ถ้าไม่ผ่านเขาก็จะส่งเป็นอีเมลล์มา ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้ค่ะ

การได้ทำงานใน Campus มันส่งผลดีต่อตัวเรายังไง ?

มันทำให้เรามีความกล้าที่จะออกไอเดีย รับฟังคนอื่น บางทีเราทำงานคนเดียวเราก็มีความคิดของเราแค่คนเดียว แต่ถ้าเราทำงานหลายๆคน เราก็จะได้หลายๆความคิดจากหลายๆเหตุผล มันก็จะมีประโยชน์กับเราเพื่อใช้ในอนาคตด้วย และก็ได้ฝึกภาษาแน่ๆ

ตอนแรกหนูก็ไม่ได้หวังว่าจะมีค่าตอบแทนเพราะตอนนั้นแค่อยากลองทำดู แต่พอได้ลองทำก็ได้มีเพื่อนต่างประเทศด้วย อย่างทีมหนูมีคนหลายประเทศมีทั้งมาจากประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม อินโด คาซัคสถาน ฯลฯ เราก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเขาด้วยอีกแบบนึง เป็นความรู้ใหม่ๆให้เรา และทำให้เราจัดการเวลาของเราได้ดีขึ้นและได้ Connection ด้วย

การเรียนโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยกับการมาเรียนที่ Shoreline Community College แตกต่างกันยังไงบ้าง ?

ทุกคนพูดภาษาอังกฤษกันหมด คนไทยที่นี่ก็น้อยกว่า ตอนเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ เวลาเจอคนไทยเราก็พูดแต่ภาษาไทยกันค่ะ มาอยู่ที่นี่มีคนไทยประมาณ 22 คนแต่เอาที่หนูรู้จักจริงๆก็ประมาณ 10 คนและคลาสที่หนูเรียนมันก็เป็นคลาสเดิน คลาสมันก็จะคละๆกัน Community College ก็จะเป็นวิทยาลัยที่เปิดให้กับคนทั่วไป เพื่อนนักเรียนอายุ 29 – 30 ปีก็มี มาจากหลายประเทศมาก เด็กอเมริกันก็มีค่ะ มันก็เลยหลากหลาย

ความคาดหวังก่อนมาเรียนกับตอนที่มาเรียนจริงๆแตกต่างกันยังไงบ้าง ?

ตอนแรกก็กลัว คิดถึงเพื่อน เพราะเพื่อนที่โรงเรียนเก่าหนูก็ดีทั้งนั้นและเราก็สนิทกัน รักกันเลยไม่ค่อยอยากจากเพื่อน แต่เพื่อนก็บอกว่ายังไงเราก็จะเป็นเพื่อนกันอยู่ดี หลังจากนั้นหนูก็ตัดสินใจมาเรียน Community College ซึ่งหนูก็สนใจ ตอนแรกก็กลัว ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษกับเขา กลัวเขาฟังไม่ทัน เพราะหนูก็ไมไ่ด้เก่งภาษาขนาดนั้น แต่พอมาเรียนที่นี่ เขาก็ไม่ได้ดูถูกสำเนียง สำเนียงหนูก็คือคนไทยพูดภาษาอังกฤษ คนที่นี่เฟรนด์ลี่กันหมดเลย ทำให้หนูมีความกล้าในการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น

ความยากของการมาเรียนต่างประเทศคืออะไร ?

เราต้องตั้งใจเรียนมากๆ มันมีเทอมนึงหนูเล่นเยอะไปหน่อย ตอนแรกๆที่มาก็ตั้งใจเรียน แล้วหลังจากนั้น เราก็คิดว่ามันง่าย ไม่ยาก มั่นใจเกินไปและไม่เตรียมตัว คะแนนของเราก็ตกลงเยอะเลย เราต้องห้ามคิดว่ามันง่าย เราต้องตั้งใจเสมอ ทุกๆอาทิตย์ต้องอ่านหนังสือ หนูชอบเขียน Post it ว่าวันนี้ต้องทำอะไรให้เสร็จ พอทำเสร็จเราจะได้ไปติ๊กออกให้มันหายไปและออกไปข้างนอกเที่ยวกับเพื่อนได้

ได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรของวิทยาลัยบ้างรึเปล่า ?

มีช่วงแรกที่เข้าชมรมเต้นแต่ตอนนี้ล่มไปแล้วเพราะไม่มีคนมาแทนและก็ไม่ค่อยมีคนมาซ้อมกัน แรกๆก็พยายามหา Club เข้าแล้ว พอเลิกเรียนก็ไปห้องสมุด ไปหาเพื่อน ไปทำงาน ทำการบ้านให้เสร็จและกลับบ้าน พวกคนต่างชาติส่วนใหญ่ก็จะเรียนและทำงานข้างนอกไปด้วย

แรกๆหนูไม่รู้จะทำอะไร มีช่วงนึงก็ว่างมาก ก็เบื่อ เรียนแล้วกลับบ้าน แต่พอมีงานทำแล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรทำมากขึ้นเพระาหนูไม่ชอบอยู่นิ่งๆ ที่นี่เขาจะมีกิจกรรมนะคะแต่เราต้องไปหาเองเพราะบางทีเวลาทำกิจกรรมก็ไม่ตรงกับเวลาว่างเรา และเวลาเลิกเรียนถ้าเราไม่เข้าใจอะไร มันจะมี Tutoring Service คนที่มาสอนก็คือคนที่เรียนวิชานี้มาแล้วและเขาสอนเราได้ เขาก็จะมาสอนเราให้ฟรีๆเหมือนครูสอนพิเศษ เราก็ไม่ต้องเสียตังค์ค่ะ แต่เป็นทางโรงเรียนจ่ายให้แทน

ปรับตัวยากรึเปล่ากับการมาเรียนต่างประเทศครั้งแรก ?

หนูรู้สึกว่าที่ Washington ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้เกิด Cultured Shock ขนาดนั้นเพราะที่นี่มีคนเอเซียเยอะ ไม่เหมือนเด็กแลกเปลี่ยนที่ไปแล้วเจอแต่คนอเมริกันบวกกับโฮสต์ผู้หญิงของหนูเป็นคนเวียดนาม ก็เลยไม่ได้ Cultured Shock ขนาดนั้น แค่กลัวเรื่องภาษาอย่างเดียว

การเรียนการสอนของครูที่นั่นเป็นยังไงบ้าง ?

ก็ดีค่ะ แต่ครูบางคลาสก็ไม่ได้ดีไปทุกคน แต่ส่วนใหญ่ก็ดีเกือบหมด เวลาเลือกครู เราก็จะไปดูในเว็บไซด์ Rate Professor ว่าครูคนไหนสอนเป็นยังไง มันก็ช่วยได้แต่ก็ยังมีวิชาบังคับที่เราต้องเรียน เราก็ต้องเรียนให้มันผ่านๆไป

สังคมเพื่อนที่นั่นเป็นยังไง ?

แรกๆเราก็อยู่กับคนไทยก่อน 2-3 คนจับกลุ่มกับเขาอยู่ เพราะมาจากเอเจนซี่ก้อปันกันเหมือนกัน แต่ปรากฏว่าคลาสเรียนก็ไม่ได้เรียนกับเขาสักคนเลย บางทีเราต้องทำแลป เราก้ต้องรู้จักเพื่อนใหม่ในคลาส พอนั่งข้างกันหลายๆคลาส เราก็เริ่มทักเขา พอรู้จักคนนี้ เราก็จะรู้จักเพื่อนของเพื่อนเขาต่อไปอีก Quarter หน้าเราก็รู้จักคนใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ

อยู่โฮสต์เป็นยังไงบ้าง ?

มันไม่เหมือนกับน้องชายของหนู น้องชายหนูไปแลกเปลี่ยน เขาก็จะมีกิจกรรมร่วมกันเยอะหน่อย แต่อย่างของหนูมันจะเหมือนเราเช่าห้องเขาอยู่ เราก็จ่ายเขารายเดือน เขาก็จะมีข้าวเย็นให้เรา มีคุยกันเรื่องทั่วไปบ้าง ส่วนตอนเช้าเขาก็มี Cereal หรือ Yogurt ให้เรา กลางวันก็ไปหากินเองที่วิทยาลัย ถ้าไปค้างบ้านเพื่อนเราก็จะส่ง Messeage บอกเขา มันไม่เหมือนของเด็กแลกเปลี่ยน ของเราจะดูเป็นผู้ใหญ่นิดนึง

อยากแนะนำคนที่ไปเรียนที่นี่ยังไง ?

สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินว่า Community College คืออะไรก็ไม่ต้องสงสัย มันเป็นการเรียนอีกรูปแบบนึงที่ทำให้เราได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ดีได้อีกทางนึง ซึ่งคิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกันนะเพราะการมาที่นี่ได้ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น เพราะที่นี่คนเขาไม่ได้ดูถูกคนที่สำเนียงอยู่แล้ว แค่เราสามารถ Communicate กับเขาได้แค่นี้ก็โอเคแล้ว คือ เราไม่เคยเจอการดูถูกเลย และเราก็ไม่ได้ Cultured Shock ขนาดนั้น คนที่นี่ก็น่ารักนิสัยดี ไม่ต้องกลัว

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shoreline CC คลิก

shoreline
# ประสบการณ์การเรียนที่ Shoreline Community College 
Photo Credits : พลอย

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน