Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192

Deprecated: parse_str(): Passing null to parameter #1 ($string) of type string is deprecated in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/plugins/chaty-pro/includes/class-frontend.php on line 2192
เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College ด้าน Journalism โดยโทนี่

[รีวิว] เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College โดยโทนี่

เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College Tony 1

รีวิว เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College
โดย “โทนี่” 

ธนัชภูมิ เหมือนต้นเทียน  ชื่อเล่นชื่อ “แต๊งค์” ที่เมืองไทย ถ้าไปอยู่ต่างประเทศชื่อ “โทนี่” เคยเรียนอยู่ที่ Seattle Central Community College แต่ด้วยปัญหาส่วนตัวก็เลยย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลีย 1 ปี ที่ออสเตรเลีย โทนี่ไปเรียนสายอาชีพเกี่ยวกับการถ่ายรูป พอจบ 1 ปีจาก college โทนี่ได้ย้ายมาอยู่ที่ Whatcom Community College ที่รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียนคณะวารสารศาสตร์ (Journalism) เรียนทั้งหมด 6 เทอม (quarters) และกำลังจะ transfer ไปศึกษาต่อที่ Western Washington University ในคณะ Visual Journalism ซึ่งจะโฟกัสที่ media ไม่ใช่แค่การเขียนหรือทำข่าวเพียงอย่างเดียว โดยจะรวมถึงการถ่ายรูป บันทึกเสียง วิดีโอ ทุกอย่างเกี่ยวกับ visual 

การเรียนการสอนที่ Whatcom เป็นยังไงบ้าง?

 การเรียนที่ Whatcom จะค่อนข้าง relax ผู้เรียนจะเรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่าที่จะไปนั่งฟังเอาข้อมูลจากอาจารย์ อาจารย์ไม่ใช่ไม่สอนเลย แต่จะพยายามแนะนำให้นักเรียนได้ค้นหาข้อมูล ความรู้ด้วยตัวเองด้วย เพราะความรู้ไม่ได้มีแค่ในหนังสืออย่างเดียว สังคมใน Whatcom Community College ค่อนข้างเล็ก ไม่ใหญ่ ไม่วุ่นวายจนเกินไป ทุกคนจะค่อนข้างจะแคร์กัน อยู่ด้วยกันแบบฉันเพื่อน ไม่มีการเขม่นกัน สังคมค่อนข้างใกล้ชิด

ในชั้นเรียนไม่ค่อยมีการแข่งขันกัน อาจจะมี แค่ในช่วงการทำ extra credit ซึ่งจะมีการแข่งขันกันนิดหน่อย ช่วงอายุของนักศึกษาส่วนใหญ่ที่มีอยู่ คือ ประมาณ 18 ถึง 20 ปีกว่าๆ แต่ถ้าเป็นคลาสเฉพาะอย่างคลาส engineer หรือคลาสเกี่ยวกับฝีมือ เช่น ปั้นหม้อ ก็จะมีอายุ 30 ขึ้นไปอยู่บ้าง

เรียนอะไรที่ Whatcom บ้าง และทำไมถึงเลือกไปเรียนต่อที่ WWU?

วิชาแรกๆ ที่ลงก็คือวิชาปั้นหม้อ ไม่เคยคิดว่า college จะมีสอน แล้วอีกอย่าง คือ มันง่ายกว่าที่คิด วัตถุดิบในการเรียนที่เขามีให้ก็มีครบ เป็นระบบระเบียบ อีกวิชานึงเป็นวิชาที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจภาษาอังกฤษมากกว่าเดิมก็เป็นวิชา Journalism ด้วยความที่ว่ามันทำให้ผมได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์คนจริงๆ แล้วก็เขียนเป็นตัวหนังสือออกมา คิดแบบ analyse ว่าสิ่งไหนควรเขียน สิ่งไหนไม่ควรเขียน มี process ว่าต้องผ่านคนนี้ก่อน รอคนนี้ approve นี้ มันทำให้ผมรู้สึกได้พัฒนาตัวเองขึ้นเยอะ

ตอนแรกผมอยากจะเรียน film อยากทำเกี่ยวกับหนังเหมือนเพื่อนที่ผมรู้จัก แต่ประเด็นคือผมรู้สึกว่าผมชอบเข้า field แล้วก็ไปคุยกับคนมากกว่าทำหนัง แล้วที่ Western Washington University (WWU) ก็มีชื่อเสียงด้าน Journalism ก็จึงเลือกโอนไปต่อที่ WWU

ทำไมถึงเลือก Whatcom Community College?

คือ หลังจากที่ผมเรียนที่ Seattle Central เนี่ย ซึ่งมันเป็นเมืองที่ค่อนข้างวุ่นวาย แล้วก็อยู่ใน downtown ค่าครองชีพสูงด้วยแล้วคนก็ไม่ค่อยแคร์กัน ผมไม่ชอบ ไม่ใช่ว่าผมอยากเป็นจุดศูนย์กลางให้คนเข้าหา แต่ผมอย่างให้คนมาแชร์ความรู้สึกเดียวกับเรา มันไม่ค่อยมีใน Seattle Central ทุกคนจะโฟกัสแต่ชีวิตของเขาเองแล้วก็ไม่ได้แคร์กัน ค่าครองชีพก็สูงซึ่งเป็นปัญหาหลักๆ เลย 

ผมชอบเมืองเล็กๆ ผมชอบการที่ทำให้ผมโฟกัสในการเรียนได้มากขึ้น Whatcom Community College เป็นที่ที่ทำให้ผมโฟกัสในการเรียนได้สุดๆ เลย ผมไม่เคย off track หรือว่าเรียนไม่ทันชาวบ้าน ผมจะมีเวลาเรียนเยอะมาก แล้วก็ไม่เสียเวลาในการเดินทางเลยเพราะเมืองมันเล็ก เพราะคนส่วนใหญ่ที่เรียนเมืองใหญ่เขาจะเสียเวลาการเดินทาง 1 ชั่วโมงในการเดินทางหายไปโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นน่ะครับ

ชีวิตในเมือง Bellingham เป็นไงบ้าง?

ส่วนใหญ่ Bellingham จะเป็นเมืองเชิงธรรมชาติน่ะครับ ไม่ใช่เต็มเมืองแบบเป็นป่า ประเด็นคือมันจะเป็นเมืองที่อนุรักษ์ธรรมชาติ เมืองที่พยายามรณรงค์ แยกขยะ เมืองไม่ใช่ขนาดใหญ่โตแบบมีทางด่วนผ่าน แต่เหมือนเป็นเมืองทางผ่านไป Vancouver หรือ Seattle มากกว่า ขนาดก็คลาสสิกๆ พอดีๆ ครับ คนไม่ได้อยู่เยอะมาก แต่ว่าทุกคนจะสนิทกันมาก จะเฟรนด์ลี่หมดเลย จะไม่มีพวกอาชญากรรม 

ถ้าเป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยกับ college เนี่ย เรามีสิทธินั่งรถฟรีได้ แค่มีบัตรนักเรียนคุณแตะแล้วขึ้นได้เลย ไม่ต้องจ่ายตังอะไรแล้ว

ร้านอาหาร ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ Bellingham มีให้หมดครับ แต่ว่าด้วยสภาพว่าเมืองมันเล็กมันจะมี choice ไม่เยอะแต่ว่าก็มีอะไรให้ทำตลอดเวลาครับ ส่วนใหญ่คนเขาก็จะไป Seattle กันเพราะว่ามันใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ชั่วโมงครึ่งประมาณนี้ครับ ขับรถหรือรถประจำทางจาก Bellingham ไป Seattle หรือไม่ก็ Vancouver มันอยู่กึ่งกลางระหว่างสองที่

ร้านไอศกรีม homemade พวกผักออร์แกนิกอะไรพวกนี้มีหมดเลยครับ แต่ว่าเท่าที่ผมเคยได้ยินมานะครับ คน Bellingham เขาจะภูมิใจเรื่องเบียร์เขามากเลย น่าจะอันดับ 5 ในประเทศแล้วครับ

วิทยาลัยพาไปเที่ยว Seattle หรือ Vancouver แคนาดา บ้างไหม?

Whatcom Community College  มีพานักเรียนไป Vancouver กับ Seattle เรื่อยๆ มีเป็นทริปของ international student ครับ เขาจะมีทุกฤดูครับ ทุก quarter เขาจะเปลี่ยนสไตล์การไปเที่ยว อย่างฤดูร้อนเขาจะพาไปปีนเขา ส่วนฤดูหนาวก็จะไปที่ท่องเที่ยวที่มีหิมะให้ชม ถ้าเป็นช่วงที่จะพาไป Seattle หรือ Vancouver จะไปช่วง Fall แล้วก็ Spring ครับ สองช่วง

ประสบการณ์เรียนที่ออสเตรเลีย 

จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ความคิดของคนออสเตรเลียค่อนข้างจะเหมือนคนไทยเรานะครับ จะค่อนข้างแบบว่า อะไรที่ไม่ใช่ก็จะปลีกตัวออกเลย แล้วก็อาจจะนินทานิดหน่อย แต่ว่าไม่ใช่รุนแรงแบบใส่ร้าย คือชอบคุยอะไรแบบนี้ครับ สังคมค่อนข้างจะปลีกวิเวก ถ้าเกิดคุณไม่เฟรนด์ลี่จริงๆ ถ้าคุณไม่มีความรู้จริงๆ เขาจะไม่ค่อยเข้าหาเราเท่าไหร่ เราต้องเก๋าระดับนึงครับ

ผมอยู่ Melbourne ครับ อย่างตัวผม ผมเป็นคนเอเชียคนเดียวในคลาส ทั้งหมดเป็น Australian หมดเลย ไปแรกๆ คือเขาเหยียดผมมากครับ เขาแบบ ไอ้นี่เป็นใคร ไอ้นี่มันแปลก ทำไมต้องมาเรียนอะไรกับเราอย่างงี้ คือผมก็ทำตัวไม่ถูกแต่ว่าพออยู่ไปสักพักนึงด้วยความที่ว่าเราเริ่ม blend ไปกับ culture นั้นแล้ว การเข้าหาพวกเขามันเลยเป็นเรื่องง่าย เขาก็เลยเริ่มยกย่องเรา เริ่มชอบเรา

ออสเตรเลียกับอเมริกา ในมุมของโทนี่แตกต่างกันยังไง?

ที่ Bellingham ไม่มีอะไรอย่างงั้นเลยครับ อเมริกาเขาจะแบบ สนิทกันเกินไปบางที มันดีนะ มันดี แต่มันก็น่าตกใจที่สนิทกันเร็วครับ อย่างร้านอาหารอย่างงี้ คือ แนะนำตัวเองทำไม ถามว่าวันนี้คุณไปทำอะไร ถามทำไม เรื่องของเราทำไมต้องถาม ซึ่งประเทศอื่นเขาไม่มีครับ ครั้งแรกที่ผมไปเรียนที่อเมริกา ผมอึดอัดมาก ผมตอบไม่ถูก จะตอบดีไหมมัน personal ควรพูดไหม แต่พออยู่ไปสักพักก็ดีครับ สนุกดีมีคนคุยด้วย

เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College Tony 5

เรียนปรับภาษาที่ Whatcom 

สอบวัดระดับ ได้เลเวล 5 ระบบภาษาของ Whatcom จะมีทั้งหมด 8 ระดับก่อน English 101 ซึ่งเป็นวิชาภาษาอังกฤษระดับวิทยาลัยที่นักเรียนทุกคนต้องเรียน 

ผมเรียนตั้งแต่เลเวล 5 และขึ้นไปอีก 3 ระดับ ผมเลยใช้เรียนปรับภาษา 4 เทอม (quarters) พอไป 101 ก็เรียนเก็บหน่วยกิตอื่นๆระดับวิทยาลัย คือ เราไม่ได้เริ่มที่ college level เลย เราเริ่มจากการปรับภาษา แต่ว่าเราก็ manage ที่จะจบภายใน 2 ปีได้เพราะว่าบาง quarter ผมใส่ไป 4 วิชา บางครั้งก็ 5 เลยก็มี

ช่วยแนะนำเรื่องภาษาสำหรับคนที่สนใจจะไปเรียนต่อวิทยาลัยในอเมริกาหน่อย

ก็อยากจะบอกว่าการเขียนมันสำคัญกว่าการพูด การพูด skill มันพัฒนาได้แต่การเขียนนี่คือเหมือนเป็นกันชี้ชะตาของเราเลยครับ ถ้าเกิดเราเขียนไม่ได้เนี่ย เขาจะถูกจัดให้อยู่ในระดับที่ต่ำเลยครับ ในทางกลับกัน ถ้าเราพูดได้เนี่ย โอเค มันก็ไม่มีอะไร คือพูดได้แต่เขียนไม่ได้มันก็ไม่เวิร์ค มันต้องเขียนได้ด้วยครับ การเขียนนี่จำเป็นสุดๆ

ชีวิตการเป็นนักศึกษาใน Whatcom ของโทนี่เป็นยังไงบ้าง?

นอกจากการเรียนแล้วเนี่ย โทนี่ได้ทำงานในวิทยาลัยด้วย ทำงานเป็นเป็น Photo Editor ให้กับ Horizon ซึ่งคือ student newspaper เหมือนองค์กรนักศึกษาที่ผลิตหนังสือพิมพ์เป็นราย 2 สัปดาห์

ผมไม่ได้คิดว่าจะได้ทำงาน … ตอนที่ผมไปสมัคร ผมอยากทำเพราะผมชอบและอยากลองทำ พอผมเขียนชื่อ แนะนำตัวเสร็จ พอหมดคลาสครูเขาก็เดินมาจับเข่า โทนี่ เรา offer นะ 2 หน้า 150 เหรียญเอาไหม ผมก็ เอาครับ

เพราะว่าเขาอาศัยปากต่อปาก เพราะว่าคนที่ college ผมทุกคนเนี่ยเขารู้ว่าโทนี่ถ่ายรูปสวยที่สุดใน college (หูวว) และ เขาบอกต่อกันปากต่อปากจนครูผมได้ยิน แล้วด้วยความที่เขาไม่อยากปล่อยผมไปเปล่าๆ เขาไม่อยากให้ผมเสีย skill เขาก็เลยจ้างดีกว่า ก็จ้างนักเรียนทุกคนแหละแต่ด้วยความที่ว่าผมมี skill มีประสบการณ์จากออสเตรเลีย เขา offer ตังผม double ปกติจะได้ 75 ต่อ 2 หน้า ผมก็ 150 ต่อ 2 หน้า 

ได้อะไรจากการทำงานในวิทยาลัยบ้าง?

ความรู้ก็ได้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าการพัฒนาตัวเอง การวางตัวในสังคม การแก้ปัญหาโดยที่ไม่มีใครมาช่วยเราแล้ว เพราะว่าส่วนใหญ่เวลาที่อยู่เมืองไทยก็มีพ่อแม่มาทำให้ แต่ที่นี่คือเราอยู่คนเดียวเลย ไม่มีใคร back ให้เรา มีแค่เพื่อน แต่เพื่อนก็ไม่ได้อยากจะช่วยเพราะบางเรื่องมันไม่ใช่เรื่องของเขา ซึ่งเราก็ต้อง deal เอง

เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College Tony 4

Whatcom Community College เหมาะกับใคร? 

Whatcom จะเหมาะกับคนประเภทชิลๆ ชอบเมืองที่ค่อนข้าง minimal ไม่ต้องคิดอะไรมากเรื่องควรจะไปซื้อนู่นนี่ ร้านนี้ไหม ควรจะไปซื้อแบรนด์เนมไหม เมืองนี้ค่อนข้างจะ countryside ไม่ได้เชิงบ้านนอก แต่เป็นเมืองที่สมถะ อยู่นิ่งๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มี event มีปาร์ตี้พวกงานใหญ่ๆ มีแต่ไม่ใช่ทุกวัน

มันไม่ใช่ city life คือเป็น college town เพราะว่ามี Whatcom มี technical school อยู่ด้วยแล้วก็มี Western Washington University ก็เป็นนักศึกกษาเสียส่วนใหญ่

ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมีแต่นักเรียนวัยรุ่นนะครับ ก็มีผู้ใหญ่ด้วย แล้วก็คนที่ชอบปีนเขาที่นี่ก็มี ภูเขาใหญ่ๆ อย่าง Mt. Baker เนี่ยคนเขาชอบไปปีนกัน ไป hike ทุกปีก็จะมีกีฬา ไตรกีฬา snowboard, ski to see แล้วก็พวกที่ชอบแนวถ่ายรูปธรรมชาติก็มีครับ 

สายถ่ายรูปแต่ว่าถ้าอยากถ่ายรูปจริงๆ ไป Seattle จะดีในเรื่องของ Fashion นะ แต่ถ้าชอบธรรมชาติ Bellingham เป็นที่ๆ ที่แนะนำ

การบริการดูแลนักเรียนนานาชาติที่ Whatcom เป็นอย่างไรบ้าง?

โห อย่างดี เขาติดตามทุกอย่าง คือไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจำผมได้ไงนะ คือผมเจอเขาล่าสุด 3 quarter ที่แล้วพอผมกลับมาเขาก็ยัง โทนี่เป็นไงบ้าง เขายังจำทุกคนได้ เขาไม่ใช่ทำให้เสร็จๆ แล้วก็ผ่านไปโดยที่ไม่แคร์ เขาตามเรื่อง สมมติเราเรียนจบไปแล้วเขาก็ยังติดตามอยู่ อย่างผมผมยังมี credit ที่ต้อง transfer เพิ่ม เขาก็ยัง hold ผมไว้อยู่ ยังติดตามสถานะผมอยู่ เขาแคร์ทุกคนจริงๆ

ขอ feedback ให้ก้อปันกัน

คือผมรู้สึกว่าก้อปันกันไม่ใช่บริษัทธรรมดา คือผมรู้สึกว่าเขาใส่ใจนะ ใส่ใจทุกคน อย่างคนสัมภาษณ์เนี่ยพี่กันต์ เขาติดต่อผมตั้งแต่แรกๆ ที่ผมมา อย่างตอนนี้ 2 ปีกว่าเขายังจำผมได้ ก้อปันกันมีพวก event มันทำให้คนรู้ว่าควรทำอะไรในอนาคต จะไปเจออะไรในอนาคต 

อยากแนะนำอะไรเพิ่มเติมให้กับคนที่สนใจไปเรียนต่างประเทศไหม?

คือปัญหาถ้ามันเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดครับ อย่าเอาความ ego ของตัวเองมา เฮ้ย มันไม่เคยเกิดกับตัวฉันเลย ไม่เคยมีใครทำกับฉันอย่างงี้ อย่าตั้งป้อมกับตัวเองมากเกินไปครับ อะไรจะเกิดปล่อยให้มันเกิดไปเลย เดี๋ยวปัญหามันก็แก้ได้เองครับ

เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College Tony 3

เรียนต่ออเมริกากับ Whatcom CC คลิก

Photo Credits : ธนัชภูมิ เหมือนต้นเทียน
# เรียนต่ออเมริกา Whatcom Community College 

ขอรับคำปรึกษา

 

เรียนต่อแคนาดา อเมริกา

Line : @korpungun

เรียนภาษาที่ฟิลิปปินส์

Line : @kpglearn

คอร์สออนไลน์ KPG LIVE

Line : @kpglive

TEL: 094-883-8778

นัดหมายพูดคุยผ่าน