Warning: Trying to access array offset on value of type null in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/themes/flatsome/inc/shortcodes/ux_image.php on line 90
Warning: Trying to access array offset on value of type null in /var/www/vhosts/korpungun.com/demo.korpungun.com/wp-content/themes/flatsome/inc/shortcodes/ux_image.php on line 90
หากคุณกำลังมองหาคอร์ส เรียนภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัว ออนไลน์ เราเชื่อว่าหลายคนคงจะอยากได้รายละเอียดที่จะช่วยให้เห็นภาพการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ แบบตัวต่อตัว และรีวิวจากประสบการณ์การเรียนจริงของผู้เรียน พร้อมภาพประกอบ ในบทความนี้เราจึงได้นำรีวิวของน้องหมิง Blogger เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ของเรา ที่มีโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบตัวต่อตัว กับ 11talk ระยะเวลา 1 เดือน มาแชร์ให้อ่านกันแบบจัดเต็ม !
ก้อปันกัน
ชุดบทความนี้ประกอบด้วย 3 Episode และมีเนื้อหาดังนี้
EP.1 ขอแค่มีเวลาวันละ 40 นาที เรียนภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัว ออนไลน์
ก่อนจะมาเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
คำถามที่หมิงมักจะถูกถามเป็นประจำคงหนีไม่พ้นคำถามที่ว่า “เรียนภาษาอังกฤษมานานเท่าไหร่แล้ว?” ซึ่งถ้าให้นับกันจริง ๆ หมิงเองก็คลุกคลีอยู่กับการเรียนภาษาอังกฤษ มาตั้งแต่ตอนเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้วค่ะ ตอนนั้นก็เริ่มต้นที่ A-Z แล้วก็มีเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ตลอดทุกชั้นปีมาเรื่อย ๆ จนถึงตอนเข้ามหาลัยก็ยังคงเรียนอยู่เกือบทุกเทอม ซึ่งรวม ๆ แล้วก็เป็นเวลาเกือบ 20 ปีเลยทีเดียว!
หลายคนอาจจะคิดว่าหมิงเรียนมาเยอะขนาดนี้คงไม่จำเป็นต้องเรียนอะไรเพิ่มแล้วก็ได้ แต่หมิงกลับมองว่าโอกาสดี ๆ ที่เข้ามาในครั้งนี้ มีเหรอคะที่หมิงจะพลาด 🙂
Learn continually. There’s always one more thing to learn. — Steve Jobs
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์? อะไร? ยังไง? จะเวิร์กเหรอ?
เชื่อว่าตอนนี้ หลายคนก็คงเริ่มคุ้นชินหรือเคยผ่านการเรียนออนไลน์กันมาบ้างแล้วใช่มั้ยคะ แน่นอนว่าการเรียนออนไลน์คงจะทดแทนการเรียนแบบเจอหน้ากันตัวเป็น ๆ ไม่ได้ทั้งหมด จากประสบการณ์ของหมิงและที่สำรวจคนรอบข้างมา คลาสเรียนออนไลน์ต่าง ๆ มักพบปัญหาที่ต่างกันออกไป แต่ถ้าเราปรับตัวเข้ากับรูปแบบการเรียนการสอนได้เมื่อไหร่ ทุกอย่างจะกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลยค่ะ
หลายคนอาจเจอปัญหาด้านเทคนิค เช่น อุปกรณ์ไม่พร้อมบ้าง ใช้งานโปรแกรมไม่เป็นบ้าง แต่อย่าลืมนะคะว่า tool พวกนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนออนไลน์เท่านั้นค่ะ
หัวใจสำคัญของการเรียนออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องอาศัย Interaction และ Communication ที่ดีระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนด้วย
11 Talk สอนสดทุกคลาส คาบละ 40 นาที
ช่องทางการเรียนที่ 11talk เลือกใช้คือ Zoom ซึ่งเป็นโปรแกรม Video Call ยอดนิยมในขณะนี้ หมิงมองว่าสิ่งจำเป็นในการโต้ตอบและสื่อสารกันระหว่างครูกับนักเรียนเขาก็มีมาให้ครบ
- ทั้งการโทรคุยกันแบบเห็นหน้า
- การแชร์หน้าจอที่เสมือนเปิดดูหนังสือเรียนไปพร้อมกัน
- ช่องแชทที่ช่วยให้การสื่อสารชัดเจนมากยิ่งขึ้น ร
- รวมถึงการแชร์ไฟล์ผ่าน Zoom ได้โดยตรง
ทำให้อะไรที่มันง่ายอยู่แล้วง่ายยิ่งขึ้นไปอีก
เรียนกับคนที่ใช่ในวิชาที่เลือกเอง
ข้อดีอย่างนึงที่ทำให้หมิงตัดสินใจเลือกเรียนแบบ Free Booking คือความยืดหยุ่นของตารางเวลาเนี่ยแหละค่ะ ด้วยจำนวนครูผู้สอนที่มีเพียงพอกับจำนวนนักเรียนในขณะนี้ บวกกับมีการเปิดคลาสเรียนไว้ตั้งแต่จันทร์ถึงเสาร์เกือบตลอดทั้งวัน ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเข้ามาจองล่วงหน้าเป็นเวลานาน ๆ นั่นเองค่ะ
Free Booking คือ รูปแบบการเรียนที่ผู้เรียนสามารถเลือกเวลาเรียนได้อย่างอิสระตั้งแต่ 6.00น.- 22.00น. ในวันจันทร์-ศุกร์ และระหว่างเวลา 6.00น. – 15.00น. ของวันเสาร์ โดยจำกัดการเรียนไว้ที่ 15 คาบต่อ 1 เดือน
แถมระบบการค้นหาในการจองคลาสยังระบุคุณครูผู้สอนแบบเจาะจงได้ด้วย ทำให้เราสามารถเข้าเรียนกับครูคนเดิมเพื่อสร้างความคุ้นเคยในการเรียนการสอนไม่ต่างจากการไปเรียนที่โรงเรียนเลยค่ะ
คอร์สที่หมิงลงเรียนไว้เป็นแบบ Regular ตัวบทเรียนจะอ้างอิงมาจากหนังสือที่ทาง Pines International Academy จัดเตรียมไว้ เราสามารถเลือกเรียนเล่มที่สนใจเป็นพิเศษขึ้นมาเรียนก่อน หรืออยากจะสลับหนังสือไปมาก็สามารถทำได้นะคะ เราทำการแจ้งคุณครูก่อนเริ่มเรียนได้เลย หรือจะติดต่อไปยังพี่เจ้าหน้าที่ก็ได้ค่ะ
สำหรับหลักสูครการเรียนหลัก ๆ หมิงจะโฟกัสอยู่ที่ 2 หลักสูตรค่ะ
- คอร์สพัฒนาทักษะการสื่อสารขั้นพื้นฐาน (Pattern English)
- คอร์สพัฒนาทักษะการสื่อสารและการอภิปราย (Speaking and Discussion)
จ่ายเงินทำไม? เรียนแบบฟรีไม่ได้ดีกว่าเหรอ?
ถ้าพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาแล้ว หมิงมองว่าการศึกษาเป็นเรื่องของการลงทุนอยู่แล้วค่ะ รูปแบบการเรียนออนไลน์ของ 11talk มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการใช้ภาษาอย่างต่อเนื่อง แถมยังช่วยให้เราประหยัดงบประมาณทั้งค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้อีกเยอะเลยค่ะ
คอร์ส Regular แบบ Free Booking ความยาว 40 นาทีต่อคลาสเรียนนั้น ค่าใช้จ่ายสำหรับ 1 เดือนต่อการสมัครครั้งแรกจะอยู่ที่ประมาณ 3,600 บาทค่ะ โดยเราสามารถเรียนได้สูงสุด 15 คลาส ถ้าลองหารออกมาก็จะอยู่ที่ 240 บาทต่อคลาส ซึ่งหมายความว่าเรากำลังจ่ายค่าเรียนเพียงแค่ 6 บาท/นาทีเท่านั้นเอง!!
มีเจ้าหน้าที่ support
ถึงแม้จะต้องเรียนคนเดียวเหงา ๆ หน่อย แต่นอกจากคุณครูแล้วยังมีพี่เจ้าหน้าที่คนไทยที่คอยซัพพอร์ทเราด้วยนะ มีปัญหาอะไรก็ทักไปหาพี่เขาได้เลย~
ถ้าเพื่อน ๆ มีข้อสงสัยหรืออยากปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการเรียนภาษา สามารถติดต่อไปทางพี่ ๆ ทีมงาน KorPunGun ได้เลยค่ะ แถมยังมีแบบทดสอบวัดระดับภาษาให้ลองทำบนเว็บของ KorPunGun อีกด้วยนะคะ หมิงแนะนำให้เพื่อน ๆ เข้าไปลองทำแบบวัดระดับกันดูก่อน ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาค่อนข้างตรงมาก ๆ ค่ะ
4 ขั้นตอน เรียนภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัว ออนไลน์ ง่าย ๆ
Checklist ก่อนเข้าเรียน
✓ ทำการบ้านและทบทวนบทเรียนครั้งก่อน
✓ หามุมเหมาะ ๆ ในการนั่งเรียน
✓ เช็คสัญญาณอินเทอร์เน็ต
✓ เตรียมหูฟัง+ไมโครโฟน+กล้องเว็บแคม
✓ ตั้งค่าภาพและเสียงบน Zoom ให้เรียบร้อย
✓ ตื่นเต้นได้ แต่อย่าเครียด! ทำตัวสบาย ๆ รอเข้าเรียน 🙂
Step 1: Log in to 11talk (เข้าสู่ระบบ)
ทาง KorPunGun ช่วยจัดการเรื่อง Account ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว หมิงสามารถกรอก ID กับ Password เพื่อเข้าสู่ระบบได้เลย ส่วนใครที่อยากทดลองเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับ 11talk แบบนี้บ้าง ให้เพื่อน ๆ กดปุ่ม Trial Class & Sign Up เพื่อลงทะเบียนรับคลาสเรียนฟรีดูก่อนได้นะคะ
เราสามารถเปลี่ยนภาษาที่ใช้แสดงผลบนหน้าเว็บได้ด้วยนะคะ เข้าไปเปลี่ยนได้ด้วยตนเองที่เมนู Setting ตรงมุมบนขวาของหน้าจอค่ะ ให้เพื่อน ๆ ลองสังเกตไอคอนรูปฟันเฟือง (Gear) หรือจะกดที่ชื่อตัวเองก็ได้เหมือนกันนะคะ พอกดแล้วจะมีเมนูย่อยออกมาให้เราเลือกเปลี่ยนภาษาได้ทันที แน่นอนว่ารวมไปถึงภาษาไทยด้วยนะคะ
Step 2: Book your class (จองคาบเรียน)
ในหน้าหลักเราจะเจอกับเมนู My Class / ชั้นเรียนของฉัน เป็นอันดับแรก ตรงนี้อาจจะงง ๆ นิดหน่อยสำหรับการใช้งานครั้งแรก ๆ หมิงก็เคยสงสัยว่าจะต้องทำอะไรต่อเหมือนกัน แต่เพื่อน ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะว่าการเรียนผ่าน 11talk จะใช้งานยากเกินไปหรือเปล่า เพราะหมิงจะมาแนะนำขั้นตอนการจองคลาสแบบ Step by step ให้เองค่า~
1. ให้สังเกตที่แถบสีม่วงด้านซ้ายมือของหน้าจอนะคะ ให้ทำการคลิกไปที่เมนู Schedule Change / เปลี่ยนตารางเรียน เพื่อเข้าสู่หน้าจองคลาสค่ะ
2.ในกรณีที่ ลงไว้หลายคอร์ส ให้เลือก Class / ชั้นเรียน ที่ต้องการด้วยนะคะ
3.กด [ปุ่มวงกลมสีน้ำเงิน] ที่มีเครื่องหมาย + (บวก) อยู่ด้านใน เพื่อทำเพิ่มตารางเรียนของเราจากการค้นหาคลาสและจองตารางเรียน
4. จะมี Popup ขึ้นมา ให้เพื่อน ๆ เลือกวันและเวลาที่ต้องการได้เลยค่ะ ตรงนี้เราจะระบุชื่ออาจารย์ที่เราอยากเรียนเข้าไปด้วยก็ได้นะคะ โดยระบบอนุญาตให้เราเข้ามาจองคลาสได้ช้าสุดคือ 30 นาทีก่อนถึงเวลาเข้าเรียนค่ะ
5. จากนั้นให้กดปุ่ม [Search / ค้นหา] เพื่อดูคลาสทั้งหมดของช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งคลาสที่เปิดให้จองได้จะมีปุ่ม [Select / เลือก] สีชมพูกำกับไว้ค่ะ
6. เมื่อเพื่อน ๆ เลือกเวลาและผู้สอนได้แล้ว ให้ทำการกด [Select / เลือก] ตาม slot ที่เราถูกใจนะคะ หลังจากนั้นให้ทำการกดยืนยันอีกครั้งนึงค่ะ
7. หากเราทำการเพิ่มคลาสสำเร็จ รายละเอียดของคลาสจะแสดงผลขึ้นมาค่ะ โดยที่เราสามารถเข้าไปเช็คความเรียบร้อยอีกทีที่หน้า My Class / ชั้นเรียนของฉัน ก็ได้เช่นกัน
ถ้าเกิดจองไปแล้วไม่ว่างเรียนขึ้นมาจะทำยังไงดี?
ด้วยความที่ Free Booking มีความยืดหยุ่นให้กับผู้เรียนอยู่แล้ว เราสามารถทำการยกเลิกคลาสที่จองไว้ได้ตั้งแต่ตอนที่จองเสร็จไปจนถึง 30 นาทีก่อนเริ่มคลาสเลยค่ะโดยเข้าไปที่หน้า Schedule Change / เปลี่ยนตารางเรียน แล้วกด [ปุ่มวงกลมสีชมพู] ที่มีเครื่องหมาย X (กากบาท) อยู่ด้านใน แล้วกด OK อีกที ระบบจะทำการลบตารางเวลาที่เราจองไว้โดยไม่ถือเป็นการขาดเรียนค่ะ
Step 3: Join the class (เข้าเรียน)
การเข้าชั้นเรียนก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เมื่อถึงเวลาที่เราทำการจองคลาสไว้ ให้เพื่อน ๆ เข้าไปที่หน้า My Class แล้วกดปุ่ม [Start / เริ่ม] บนคลาสนั้น ๆ ได้เลยค่ะ
ทุกคลาสที่เปิดให้จองบน 11talk จะเป็นการสอนสดแบบ 1:1 โดยอยู่ในรูปแบบของ Video Call ผ่าน Zoom Meeting ค่ะ เราสามารถลงโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเข้าเรียนได้เลยค่ะ ขอแค่มี Zoom เราก็เลือกเรียนได้ทั้งบนคอมฯ มือถือ หรือว่า tablet ก็ได้ ถือว่าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความถนัดที่แตกต่างของแต่ละคนไปเลย~
Step 4: Learn and enjoy! (เรียนรู้ให้เต็มที่)
แต่ละคลาสที่หมิงได้เข้าเรียนมาแล้วค่อนข้างมีความเป็นกันเอง บรรยากาศในการเรียนไม่เครียดเลยค่ะ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะระยะเวลาที่ไม่สั้นหรือนานจนเกินไป และด้วยรูปแบบการเรียนการสอนที่ออกแบบมาให้เกิดการโต้ตอบกันทั้งสองฝ่าย พออยู่ในคลาสแล้วก็ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะ ถ้าเกิดฟังไม่ทัน เสียงขาดหาย ไม่เข้าใจบทเรียน ติดตรงไหน ไม่ได้อะไร ขอให้คุณครูทวนซ้ำและถามคำถามได้ตลอด คุณครูจะคอยช่วยซัพพอร์ทเราอยู่ตลอดระยะเวลา 40 นาทีแน่นอน!
ฟีดแบคจากผู้สอนหลังคาบเรียนทุกคาบ
หลังจากจบคลาสแล้ว เพื่อน ๆ สามารถกลับเข้าไปดู Feedback ของการเรียนในแต่ละคลาสผ่านหน้า My Class ได้เลยนะคะ คุณครูจะช่วยลิสต์จุดที่เราควรฝึกฝนเพิ่มมาให้อย่างละเอียดทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังมีการบ้านให้เราฝึกทำเพิ่มเติมบนตัวเว็บอีกด้วย ซึ่งหลังจากที่ส่งไปแล้ว คุณครูเจ้าของคลาสจะเป็นคนเข้ามาทำการตรวจทานความถูกต้องให้ค่ะ
การเดินทางเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!
ในขณะที่กำลังเขียน Blog นี้อยู่ หมิงเรียนมาได้ 3 คลาสแล้วค่ะ แม้ครั้งแรกอาจจะงง ๆ กับตัวเว็บไซต์ 11talk สักหน่อย แต่อย่างที่เพื่อน ๆ เห็น หมิงก็ผ่านมาได้ด้วยดีใช่มั้ยคะ ส่วนสำคัญเลยคือ Corrections และ Feedback ต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากคุณครู มันทำให้เราสามารถรู้ถึงจุดแข็ง จุดอ่อนและข้อบกพร่องของตัวเองได้ชัดเจนมากขึ้น ทำให้รู้ว่าตัวเราเองควรจะต้องเน้นที่จุดไหนเป็นพิเศษ ประสบการณ์ดี ๆ เหล่านี้ทำให้รู้สึกว่าอยากเรียนต่อไปอีกเรื่อย ๆ เลยค่ะ
EP.2 เรียนสนุกลุกนั่งให้สบาย
ไปกับสไตล์การสอนของคุณครูชาวฟิลิปปินส์
การเรียนภาษาอังกฤษกับครูผู้สอนชาวฟิลิปปินส์
หลังจากที่หมิงได้เข้าคลาสเรียนกับผู้สอนชาวฟิลิปปินส์ผ่าน 11talk มาพอสมควรแล้ว สำหรับเนื้อหาของ Blog ในครั้งนี้ หมิงจะเล่าถึงความรู้สึกและมุมมองที่มีต่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษกับคุณครูฟิลิปปินส์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันค่ะ
เรียนกับใคร?
สำหรับการเรียนแบบ Free Booking ทุกคลาสของ 11talk จะถูกสอนโดย Expert Teacher ที่เราสามารถเลือกได้เอง อยากจะเรียนซ้ำ ๆ กับคุณครูคนเดิมหรือจะลองสุ่มจองคุณครูท่านใหม่ ๆ ก็ได้ อันนี้แล้วแต่ความชอบของนักเรียนแต่ละคนเลยค่ะ
แต่ไม่ว่าจะเลือกเรียนกับคุณครูท่านไหน เพื่อน ๆ จะได้พบกับคุณภาพของการเรียนการสอนที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยค่ะ!
การเรียนกับครูฟิลิปปินส์ในอดีต
เมื่อก่อนหมิงเคยมีภาพจำว่าการเรียนภาษาอังกฤษกับครูฟิลิปปินส์จะต้องเจอกับสำเนียงแปลกๆ ฟังยากๆ เนื่องจากสมัยมัธยมต้นหมิงก็เคยเรียนกับคุณครูชาวฟิลิปปินส์มาก่อนค่ะ ตอนนั้นตัวเราเองค่อนข้างมีปัญหาเกี่ยวกับการฟังอยู่พอสมควรเลย ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นเรายังไม่ค่อยคุ้นชินกับภาษาอังกฤษเท่าตัวเราเองในตอนนี้หรือเป็นเพราะสไตล์การพูดที่ค่อนข้างรัวและเร็วของคุณครูกันแน่
แต่จากตอนนั้นมาถึงตอนนี้การฟังไม่ใช่อุปสรรคของหมิงอีกต่อไปแล้วค่ะ
หมิงมองว่าสำเนียงของผู้พูดเป็นแค่ปัจจัยนึงเท่านั้นเอง มันขึ้นอยู่กับความคุ้นชินของตัวผู้ฟังด้วยค่ะ ถ้าเราคุ้นชินกับสำเนียงต่าง ๆ ได้มากพอเราก็จะซึมซับและเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น
สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือเรื่องของการออกเสียงอย่างถูกต้องค่ะ แน่นอนว่าคุณครูทุกคนที่สอนเราบน 11talk ได้ผ่านการฝึกฝนด้านนี้มาอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ลบภาพจำเดิมๆ ทิ้งไปได้เลย
เรียนแค่นี้จะพอไหม? เรียนนานไปหรือเปล่า?
ตอนแรกหมิงก็เคยตั้งคำถามกับตัวเองนะคะว่าการเรียนออนไลน์ที่ต้องนั่งจ้องหน้าจอนาน ๆ จะไม่เครียดเอาเหรอ เมื่อเทียบกับคลาสของมหาลัยที่เราต้องเรียนเป็นชั่วโมงสองชั่วโมง หมิงรู้สึกว่าคลาสเรียนภาษาอังกฤษที่เน้น speaking ภายใน 40 นาทีของ 11talk เป็นระยะเวลาที่กำลังพอเหมาะเลย!
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการจัดการเวลาของคุณครูแต่ละคนด้วยนะคะ บางคลาสอาจจะดูเหมือนสอนไม่ทัน เพราะเน้นบรรยายเฉพาะจุดเยอะไปหน่อย บางคลาสก็สอนจบเร็วเพราะเนื้อหาน้อย แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะได้เรียนน้อยกว่าบทอื่นนะคะ คุณครูจะหากิจกรรมอื่น ๆ มาเสริมให้เราจนครบ 40 นาทีเหมือนเดิม อาจจะเป็นการพูดคุยทั่วไป การให้เราขยายความสิ่งที่เราเล่า ที่พิเศษหน่อยนึงคือเคยได้ลองฝึก 2-minute speech ในคลาสด้วย หลายครั้งก็มีการให้ feedback กันในคลาสเลย หมิงว่าตรงส่วนนั้นก็ช่วยให้เรามีเวลาได้ฝึกพูดและฝึกแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองมากขึ้นนั่นเอง
ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ผ่านคลาสเรียน
ถ้าบอกว่า 11talk เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้เราได้พูดคุยเพื่อพบปะผู้คนใหม่ ๆ ก็คงไม่ผิดไปซะทีเดียว นอกจากเนื้อหาสาระที่ได้จากการเรียนในคลาสแล้ว เรายังได้แลกเปลี่ยนความคิด ความสนใจ ความเหมือนและต่างแตกต่างของวัฒนธรรม รวมถึงเรื่องราวและประสบการณ์ชีวิตต่าง ๆ กับครูผู้สอนอีกด้วย อารมณ์เหมือนได้มาพูดคุยทำความรู้จักเพื่อนใหม่พร้อมเรียนภาษาไปในตัว แถมบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเองระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนที่สุดแสนจะชิลล์ ช่วยทำให้ทุกคลาสของหมิงเต็มไปด้วยความสนุกสนานเลยแหละ~
Today’s Corrections → Improvements in everyday life!
เรียนรู้และแก้ไขเรื่องการออกเสียง
หมิงเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องการออกเสียงมาตลอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ตาม แง หลายครั้งเวลาพูดภาษาอังกฤษเพลิน ๆ ก็เผลอลืมตัวเน้นเสียงผิดที่บ้าง ออกเสียงไม่ชัดเจนบ้าง แรก ๆ หมิงก็คิดว่ามันคงเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ซึ่งที่จริงแล้วข้อผิดพลาดตรงนี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการสื่อสารได้เป็นอย่างมากทีเดียวค่ะ
แต่ขึ้นชื่อว่าเรียนภาษากับครูฟิลิปปินส์แล้ว เรดาห์ตรวจจับการออกเสียงภาษาอังกฤษของคุณครูแต่ละคนไม่เป็นรองใครแน่นอน หมิงก็แอบทึ่งในความไวของคุณครูที่สามารถ correct ข้อผิดพลาดต่าง ๆ เหล่านี้ได้เกือบจะทันทีหลังจากที่เราพูดผิดเลย ถ้าเจอว่าเราออกเสียงคำไหนไม่ถูกก็จะไม่ปล่อยผ่านและพยายามช่วยให้เราเรียนรู้วิธีการออกเสียงที่ถูกต้องให้ได้ค่ะ รวมถึงพวกไวยากรณ์ต่าง ๆ ที่มีการใช้แบบผิด ๆ หรือไม่สมบูรณ์ คุณครูจะช่วยแก้ไขและเติมเต็มให้เราเอง หรือบางทีถ้ามีวิธีการพูดที่ฟังดูเข้าท่ากว่าคุณครูจะช่วยเสนอแนะมาให้เราได้ลองเอาไปใช้อีกด้วยค่ะ
Supportive Feedback ❤
การเดินทางยังไม่จบลงเพียงเท่านี้…
EP.3 เรียนให้ได้เรื่อง! สี่สัปดาห์ การฝึกฝนภาษาอย่างต่อเนื่อง!
สวัสดีค่า ครั้งนี้จะเป็นการเล่าถึงประสบการณ์จริงที่ได้รับจากโปรแกรมการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ “11talk” ที่หมิงเพิ่งเรียนจบไปนะคะ รวมถึงความรู้สึกกับความคาดหวังทั้งก่อนและหลังเรียนว่าเป็นยังไงบ้าง
Pattern English
แน่นอนว่าหมิงอยากเรียนรู้รูปประโยคเจ๋ง ๆ เท่ๆ แปลกๆ ที่สามารถเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งทั้ง 6 คลาสก็ตอบความต้องการนั้นได้ทั้งหมดเลย เพียงแค่ว่าสิ่งที่ได้เรียนเป็นอะไรที่เคยผ่านการใช้งานรูปประโยคพวกนี้มาหมดแล้ว ตอนแรกก็คาดหวังว่าจะได้เจออะไรว้าว ๆ มากกว่านี้ เลยแอบเซ็งนิดนึง แต่ยอมรับว่าค่อนข้างท้าทายดีเหมือนกันที่ต้องพยายามคิดประโยคและบทสนทนาให้มารองรับตัว Pattern ที่เราเรียนให้ได้! บางบทก็ได้เจอคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
Speaking & Discussion
นอกจากนี้ยังได้ฝึกการอ่านออกเสียงจากการอ่าน passage ของแต่ละหัวข้อด้วย ซึ่งเราจะได้รับการ correct การออกเสียงที่ถูกต้องจากคุณครูก็ตอนนี้แหละ แน่นอนว่ามีการเช็คความเข้าใจในการอ่านจับใจความหลังอ่านจบด้วย รวมถึงคำศัพท์ต่าง ๆ ที่แต่ละบทเรียนเน้นเป็นพิเศษ คุณครูจะคอยถามเพื่อเช็คให้ชัวร์ว่าเราเข้าใจถูกต้องมั้ยก่อนเข้าสู่ช่วง discussion ที่เน้นพูดคุยและตอบคำถามเป็นหลัก อยากพูดอะไรพูดได้เต็มที่เลย แต่ถ้าคิดไม่ทันหรือนึกประโยคไม่ได้ หมิงก็จะใช้วิธีถามคุณครูกลับค่ะ!
รูปแบบการเรียนจะไม่ได้เคร่งเครียดมาก ให้มองว่าเป็นการได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันซะมากกว่า ส่วนตัวชอบและรู้สึกสนุกมากค่ะ
ความคาดหวังในการเรียนครั้งนี้
ด้วยความที่เราเองเรียนภาษาอังกฤษมาตลอด แต่หมิงก็ยังรู้สึกว่ามันยังมีอะไรที่เราต้องปรับปรุงอีกเยอะเลย มันยังมีอะไรให้เรียนรู้เพิ่มได้ตลอด ตอนที่รู้ว่าจะได้เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ยาว ๆ ไป 1 เดือน หมิงตั้งเป้าในใจไว้พอสมควร
- เก่งขึ้น!
- มั่นใจมากขึ้น!
- รู้อะไรมากขึ้น!
- ได้ใช้ภาษามากขึ้น!
- กล้าแสดงออกมากขึ้น!
- ออกเสียงได้ถูกต้องมากขึ้น!
- เขินเวลาต้องคุยกับคนอื่นน้อยลง!
สิ่งที่คาดไว้ VS สิ่งที่ได้เจอ
ในระยะเวลา 30 วัน หมิงลงเรียน Pattern English ไปทั้งหมด 6 คลาส ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเรียน Speaking & Discussion 14 คลาสจนครบโควตา 20 คลาส รวมแล้วได้เรียนไปด้วยกันทั้งหมด 13.3333 ชั่วโมง/เดือนนั่นเอง
เครียดเป็นบ้างมั้ย?
เขาว่ากันว่าการเรียนภาษาอังกฤษกับครูฟิลิปปินส์ค่อนข้างจะเข้มงวดและโหดเอาเรื่อง! หมิงว่าถ้าเป็นเรื่องการให้คำแนะนำและการ correct ข้อผิดพลาดต่าง ๆ คุณครูของที่นี่ก็โหดใช้ได้นะคะ ส่วนเรื่องบรรยากาศการเรียนการสอนโดยรวมหมิงมองว่าเป็นกันเองมาก ๆ แถมเวลาที่หมิงเกิด dead air หรือมีอาการเอิ่มๆ อ่า ๆ (filler) พูดซ้ำประโยคเดิม ๆ นานแค่ไหน ครูทุกคนจะรอฟังคำตอบของหมิงอย่างใจเย็นเสมอ บางคนก็ลุ้นเอาใจช่วยหมิงหนักมาก ทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้นและไม่รู้สึกกดดันในการเรียนเลยค่ะ
พัฒนาดีขึ้นแล้วบ้างไหม?
ถ้าให้ประเมินตัวเองว่ามีการพัฒนามากน้อยแค่ไหนหลังจากที่เรียนไปแล้ว 20 คลาส หมิงคงตอบเป็นตัวเลขหรือเปอร์เซ็นต์ที่ชัดเจนไม่ได้ แต่จากความคาดหวังในตอนแรกที่อยากจะเรียนภาษาเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้น ตอนนี้หมิงกลับมองว่าเราไม่จำเป็นต้องเก่งขึ้นอย่างชัดเจนหรือก้าวกระโดดอะไรแบบนั้นก็ได้ ขอแค่เรายังสามารถที่จะรักษาระดับและมาตรฐานของตัวเองไว้ให้ได้ก็โอเคแล้วแหละ
จากการที่ได้เรียนอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 40 นาที สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดคือการที่เราค่อย ๆ ดีขึ้นในทุก ๆ วัน หมิงรู้สึกว่าเรารู้ตัวเองมากขึ้นว่ามีตรงไหนที่ทำพลาดไป หลายครั้งเราก็เริ่มที่จะแก้ไขมันให้ถูกต้องด้วยตัวเองได้มากขึ้นแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการไม่หยุดอยู่แค่นี้มากกว่า มันยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะจริง ๆ นะ 🙂
นั่นแหละความลับของผม
เคล็บลับง่าย ๆ ของหมิงคือ “การไม่ปล่อยให้ตัวเองหยุดใช้ภาษา” เรารู้ตัวเองเลยว่าถ้าหยุดใช้มันเมื่อไหร่ สกิลด้านภาษาของเราก็จะอ่อนแอลงทันที ยิ่งถ้าห่างหายจากการใช้งานไปนานเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งหลงลืมสิ่งที่เราเคยเรียนมามากขึ้นเท่านั้น!
ประเด็นสำคัญมันขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาที่เราพบเจอในทุก ๆ วันให้กลับไปสู่สิ่งที่เราได้จากการเรียนภาษาอังกฤษของเราได้มากน้อยแค่ไหน ในท้ายที่สุดแล้วจุดมุ่งหมายสูงสุดในการเรียนภาษาอังกฤษคือการนำไปใช้ในชีวิตจริงนะคะ ถ้าเราเรียนเพื่อเอาไว้สอบอย่างเดียวคงน่าเสียดายแย่ 🙂